‘ชลน่าน’ จ่อดัน “แก้รธน.ใหม่” นโยบายให้ปชช.เลือก เชื่อยุบสภาหลังเอเปค

‘ชลน่าน’ เหน็บ ขนาดรัฐบาลทำงานร่วมกับส.ว. ยังปิดสวิตช์ แต่ใช่ว่าจะได้คะแนนอย่างท่วมท้น จ่อ ดันเป็นนโยบายให้ปชช.เลือก 80% รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม เชื่อยุบสภาหลังเอเปค เหตุสามารถจัดการ ส.ส.ได้ง่าย เป็นประโยชน์กว่า

 

วันที่ 11 กันยายน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หลายพรรคการเมืองเริ่มหันมาสนใจเรื่องปิดสวิตช์ ส.ว. ในช่วงก่อนมีการเลือกตั้ง มองว่าเป็นการหาเสียงหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากมองว่าส.ว.เป็นปัญหาสำหรับการเมืองไทย แม้แต่รัฐบาลเองยังใช้เงื่อนไขนี้ ก็ถือว่าเป็นปัญหาจริงๆ ขนาดเขาทำงานร่วมกันแล้วยังใช้เงื่อนไขนี้อยู่

ส่วนจะได้รับการตอบสนองจากประชาชนหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจเพราะไม่ใช่ประเด็นเดียวที่ปิดสวิตช์ส.ว. แล้วจะได้คะแนนอย่างท่วมท้น และพรรค พท.เราชัดเจนในแง่ที่เราเป็นฝ่ายประชาธิปไตย และรณรงค์เพื่ออำนาจของประชาชนมาโดยตลอด รวมถึงมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ นโยบายต่อไปคือต้องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ให้ได้

เมื่อถามถึง ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับที่ตกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะมีการเดินหน้าต่อหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราคงไม่คิดที่จะยื่นแก้ไขในสมัยประชุมที่ 2 ปีที่ 4 แล้ว เพราะฟังจากส.ว.พูดแล้วมันยาก ต้องอาศัยเสียงตั้ง 84 เสียง วิธีการเขียนกฎหมายของเสียงข้างน้อยปกครองเสียงข้างมาก ลำบากมาก เสียงทั้ง 84 เสียงมีผลมาก หากมี 600 เสียงเห็นชอบแต่ 84 เสียงไม่ให้ผ่าน เป็นการขัดหลักการประชาธิปไตยโดยทั่วไป

ฉะนั้นการที่เราจะไปสู้ตรงนั้นค่อนข้างยาก คงจะไม่เสนอในสมัยประชุมต่อไป เราจึงผลักดันเป็นนโยบายที่จะเป็นฉันทามติของประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากเห็นด้วยก็เลือกพรรค พท.เรา เพื่อไปแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยประชาชน

นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมในวันที่ 23 มีนาคม 2566 หรือไม่ว่า 80 เปอร์เซ็นต์ไม่ครบ ให้แค่ 20 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าผลการวินิจฉัยของศาลจะเป็นอย่างไร ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะพ้นหรือไม่พ้น มีโอกาสยุบสภาสูงมากหลังเอเปค ตนเชื่อเช่นนั้น ฉะนั้น พวกเราจึงต้องเตรียมเลือกตั้ง และขอบคุณประชาชนที่บอกว่า พรรค พท.พร้อมที่สุดในการเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า มีเบาะแสอะไรหรือไม่ที่ทำให้รู้สึกว่ายุบสภาหลังเอเปค นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ เราเชื่อว่าผู้มีอำนาจเขาจะตัดสินใจที่เป็นประโยชน์กับเขามากที่สุดคือการยุบสภา แต่ถ้าเขาอยู่ครบเทอมเขาไม่ได้ประโยชน์ เพราะยิ่งอยู่นานก็ยิ่งแย่ ศรัทธาประชาชนเสื่อมไปเรื่อยๆ หรือเพื่อเป็นการเปิดช่องให้มีอากาศหายใจ โดยจังหวะที่เขาสามารถได้ประโยชน์คือหลังเอเปคเขาสามารถจัดการ ส.ส.ในการย้ายพรรคได้ เพราะเมื่อยุบสภาจะมีโอกาสให้ ส.ส.สังกัดพรรคได้ดีกว่าปล่อยให้ครบเทอม ซึ่งเป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุดในการจัดตัวของเขาและลดกระแสการคัดค้านจากประชาชน