ทวิดา ลั่น ‘ถูกรับน้อง’ ตั้งแต่แรก ส่งการบ้าน 99 วัน จ่อเปิด ‘เดือดร้อนเข้าแอพพ์’ นอนอยู่บ้านก็เข้าถึงแพทย์

ทวิดา ลั่น ‘ถูกรับน้อง’ ตั้งแต่แรก ส่งการบ้าน 99 วันทำอะไรบ้าง รวมฐานข้อมูล รื้อโครงสร้าง แก้จุดเสี่ยง นอนอยู่บ้านก็เข้าถึงแพทย์ ‘เดือดร้อนเข้าแอพพ์’

 

วันที่ 9 กันยายน 2565 ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้ง 4 คน ได้แก่ รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ดูแลด้านโครงสร้างพื้นฐาน นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. ดูแลด้านการเงิน การคลัง, ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. ดูแลด้านภัยพิบัติและสาธารณสุข และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม.ดูแลด้านการศึกษาและสังคม ร่วมแถลงผลการดำเนินงาน 99 วัน ตามนโยบาย “9 ด้าน 9 ดี” ว่า กทม.ทำอะไรไปแล้วบ้าง และนับต่อจากวันที่ 100 จะมีอะไรเกิดขึ้นใน กทม.

ผศ.ดร.ทวิดากล่าวก่อนสรุปผลการดำเนินงานว่า “เมื่อกี้ก่อนขึ้นมา ผู้ว่าฯ โทรตามท่านรองฯ วิศณุลงพื้นที่แล้วนะคะ เดี๋ยวท่านรองอาจะต้องรีบมาพูดต่อจากนี้ แล้วก็รีบไป”

ผศ.ดร.ทวิดากล่าวรายงานว่า 99 วันที่ผ่านมา ด้วยภาระหน้าที่ที่ดูแล กระจายอยู่ในเป้าหมาย “ปลอดภัยดี สุขภาพดี และบริหารจัดการดี”

ในแง่ของความ “ปลอดภัยดี” ช่วงนี้เราอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ “ถูกรับน้อง” ตั้งแต่ไฟไหม้ แล้วก็มาถึงน้ำท่วม อาคารที่มีความเก่าก็มีปัญหาด้านโครงสร้าง ฉะนั้น ช่วง 99 วันที่ผ่านมาเราจึงจัดทำฐานข้อมูล ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลนำเข้าทั้งหมด เพื่อที่จะนำเราไปสู่ “แผนที่ความเสี่ยง” หรือ ฐานข้อมูลความเสี่ยงกรุงเทพมหานคร (BKK Risk Map) ของ กทม.ในอนาคต

ขณะนี้เราลงข้อมูลตำแหน่ง หัวจ่ายดับเพลิง (ประปาหัวแดง) ที่อยู่ตามชุมชนต่างๆ ที่หนาแน่นสูง และทำข้อมูลบัญชีของทรัพยากรทั้งหมด (วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการเผชิญเหตุ) ซึ่งสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย รวมทั้งเครือข่ายของเราที่เป็นหน่วยอาสาสมัคร ตอนนี้เรากำลังจัดทำฐานข้อมูลของอาสาสมัครอยู่ รวมทั้งปรับปรุง จัดทำอุปกรณ์ รายนาม และฟื้นอุปกรณ์ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทั้งหมด ในแง่ “ปลอดภัยดี”

ผศ.ดร.ทวิดากล่าวต่อว่า ส่วนในแง่ “สุขภาพดี” ที่ผ่านมา สื่อและประชาชนคงทราบว่า
เรามีการทำคลินิกวันเสาร์ ที่ “เจอ แจก จบ” มีไว้อำนวยการ การบริการประชาชนเต็มที่ รวมถึงเรื่องวัคซีนที่มี 2 แบบ คือทีมเชิงรุก สู่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งมีจำนวนหลายหมื่นคน ที่เรานำเข้าไปฉีดวัคซีน รวมทั้งบริการ “เจอ แจก จบ” ขณะนี้เรามี คลินิค ลองโควิด 9 คลินิกแล้ว ที่ 9 โรงพยาบาลหลัก สามารถเข้าไปปรึกษาอาการลองโควิดได้

อีกส่วนหนึ่ง ขณะนี้ มีศูนย์บริการ “บัตรคนพิการเบ็ดเสร็จ” ที่โรงพยาบาล 9 แห่งเรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้ เวลาที่คนพิการไประบุยืนยันความพิการที่ รพ. สามารถทำบัตรบริการเบ็ดเสร็จได้โดยไม่ต้องออกจาก รพ.ไปที่ไหนแล้ว เรียบร้อยเบ็ดเสร็จที่ รพ.ได้เลย

ผศ.ดร.ทวิดากล่าวต่อว่า มีการเปิด Pride Clinic คลินิกความหลากหลายทางเพศ ปัจจุบันนี้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 6 แห่ง กระจายตัวอยู่ใน 6 โซนของ กทม. สามารถรับบริการได้ทุกอย่าง ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ทั้งเรื่องฮอร์โมน วิธีการ การดูแลตัวเอง รวมถึงวิถีทางเพศ ได้ทั้งหมด รวมทั้งคลิกนิคความหลากหลายทางเพศยังเปิดใน 5 โรงพยาบาลของ กทม.ด้วย

“เราเปิดแซนด์บ็อกซ์สุขภาพ เพื่อที่จะเชื่อมรอยต่อ ระหว่างศูนย์บริการสาธารสุข ร้านขายยา หรือแม้แต่คลินิกอบอุ่น คลินิคชุมชน เพื่อเชื่อมเข้าสู่โรงพยาบาลทุติยภูมิ และระบบตติยภูมิ

แซนด์บ็อกซ์ของ ดุสิตโมเดล ครอบคลุมพื้นที่ของดุสิต พระนคร บางซื่อ และบางพลัด เปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม กำลังดำเนินการประเมินผลเพื่อที่จะปรับปรุง เพราะมีช่องว่างมากมาย ราชพิพัฒน์ แซนด์บ็อกซ์ เพิ่งเปิด ครอบคุลม 5 เขต คือตลิ่งชัน บางแค หนองแขม ภาษีเจริญ และทวีวัฒนา ต่อจากนี้ไปประชาชนจะสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ที่บ้านเลย” ผศ.ดร.ทวิดากล่าว

ผศ.ดร.ทวิดากล่าวต่อว่า สุดท้าย ในความรับผิดชอบเป็นเรื่อง “บริหารจัดการดี”
“อันนี้ไม่เคลม ระบบบริการ Smart Service และคำขอออนไลน์ BKK OSS มีมาก่อนหน้าที่ทีมเราจะข้ามาแล้ว แต่ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เราสำรวจเพิ่มเติมว่ามีบริการไหนที่ควรจะเพิ่มให้ภาคประชาชนในลักษณะของออนไลน์ และสมาร์ทเซอร์วิส ตอนนี้ Smart Service กลับมาบริการเต็มรูปแบบ ภาคประชาชนมีเรื่องเดือดร้อน อยากได้บริการอะไรจาก กทม. เข้าแอพพลิเคชั่นได้เลย และมีแบบฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องของการจดเลขบ้าน ทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนศาลเจ้า ทะเบียนข้อมูลของมูลนิธิ สามารถเข้าไปขอได้เลย

ขณะเดียวกัน เรากำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกคนพิการเข้ารับราชการเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการเข้ารับราชการช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน ” ผศ.ดร.ทวิดากล่าว และว่า

ขณะนี้ ท่านผู้ว่าฯ ให้ความสำคัญมากกับ “สวัสดิการ” เส้นเลือดฝอยไม่ได้มีแต่ประชาชนเท่านั้น บุคลากรของเราเองที่เป็นเส้นเลือดฝอยก็มีเช่นกัน เราทบทวนและขณะนี้จัดทำร่างข้อบัญญติ เรื่องสวัสดิการครู และพนักงานที่เก็บและขนขยะ พี่ๆ เก็บขยะ พี่ๆ รักษาความสะอาดของเรา

สุดท้ายเป็นการประกาศจุดยืน ตามนโยบายของทีมบริหาร ที่จะไม่เลือกปฏิบัติทางเพศ และป้องกันการล่วงละเมิดใดใดก็ตาม และเปิดอิสระให้สามารถแสดงออกตามวิถีของตนเองมากขึ้น 99 วันที่ผ่านมา นั่นคือสิ่งที่เราทำ

ผศ.ดร.ทวิดากล่าวต่อว่า 99 วันต่อจากนี้ ในแง่ของ “ปลอดภัยดี” จากที่เรียนเมื่อสักครู่ ที่เราเก็บข้อมูลภาคประชาชน ชุมชุน เพื่อดูว่าศักยภาพอยู่ตรงไหน ต่อจากนี้ไป เราจะบริหารจัดการความปลอดภัยด้วยระบบข้อมูล เรามีข้อมูลชุมชน ทรัพยากร และอาสาสมัคร ฉะนั้น ระบบในการบริหารจัดการจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ และทำให้โปร่งใสขึ้น ประชาชนสามารถติดตามได้

ขณะเดียวกัน เราจะเริ่มทำ BKK Risk Map ซึ่งจะเขี่ยวข้องกับท่านรองฯ วิศณุ ทรัพย์สมพล อย่างแนบแน่น เพราะเราจะระบุพื้นที่จุดวิกฤตน้ำท่วม จุดวิกฤตอาชญากรรม และจุดที่เกิดอัคคีภัยบ่อย ตอนนี้เรามีข้อมูลสารเคมีที่เป็นอันตราย (Hazardous material) เมื่อน้ำเข้าข้อมูลแล้ว จะทำให้เราเห็นแผนที่ทั้งหมดของ กทม. และในอนาคต เราจะให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้

ในแง่สุขภาพดี Pride Clinic ภายในสิ้นปีนี้จะทำให้ได้ 16 ศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) ทั่ว กทม.ให้ครอบคลุมทั้งหมด เราจะทำเตียงพักรอใน ศบส. 6 โซนเขต ต่อไปนี้เราจะมีด่านหน้า อยู่ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข มีเตียงพักรอดูอาการของประชาชนได้จำนวนหนึ่งก่อนส่งต่อ

“จะมี ‘การเชื่อมต่อและขยายบริการสู่คนพิการแบบเบ็ดเสร็จ’ อันนี้เป็นความหวังของเรามาก เจรจากับ กรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการแล้ว ว่าจะทำอย่างไร ให้ไปถึงการจ่ายเบี้ยคนพิการ และจัดหางานคนพิการ ผ่านทั้งระบบออนไลน์ และระบบบริการที่ รพ.ได้

สุดท้าย เราจะขยายแซนด์บ็อกซ์ ที่เปิดดุสิตโมเดล และราชพิพัฒน์ แซนด์บ็อกซ์จะขยายเพื่อเชื่อมเขตให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน เราคาดหวังจะเปิดแซนด์บ็อกซ์ใหม่ทางสุขภาพ ซึ่งเราเล็งไว้ว่าจะเป็นโซน กทม.เหนือ ที่ กทม.ไม่มีโรงพยาบาลเป็นของตัวเอง แต่เราทำความร่วมมือกับ โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และโรงเรียนแพทย์ คาดว่าจะสามารถทำได้

สุดท้าย เรื่องบริหารจัดการดี ขณะนี้กำลังจัดทำ BKK Digital Plan แต่ยังไม่สามารถนำมารายงานได้ ว่าเป็นผลงาน ขอเวลาอีกนิดนึง ประชาชนจะสามารถติตตามการทำงานตามเป้าหมาย 9 ด้าน 9 ดี ของผู้ว่าฯ รวมทั้งโครงการและกิจกรรมที่ทำทั้งหมดผ่าน BKK Digital Plan และเรามีแซนด์บ็อกซ์สำนักงานเขต ที่จะปรับโครงสร้างการทำงานใหม่

เส้นเลือดฝอย เป็นสิ่งที่ผู้ว่าฯ เน้นที่สุด ดังนั้น โครงสร้างงานเงิน คน อัตรากำลัง ควรจะต้องไปอยู่ที่สำนักงานเขต จะมีการปรับโครงสร้างการทำงานใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะเริ่มที่แซนด์บ็อกซ์ของเราก่อน ปลายปีนี้น่าจะสามารถเปิดแซนด์บ็อกซ์นี้ได้

สุดท้าย เรากำลังเร่งจัดทำระบบประเมินผลงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ท่านผู้ว่าฯ เน้นมากว่า ความยุติธรรม และความโปร่งใส เรื่องการประเมินผลปฏิบัติงานการเข้าสู่ตำแหน่ง ต้องทำให้ข้าราชการ ใน กทม.มีความมั่นใจกับระบบแบบนี้ได้ ดังนั้น ภายในสิ้นปีน่าจะเสร็จ ได้ระบบใหม่” ผศ.ดร.ทวิดากล่าว