กรณ์ ทิ้งพรรคกล้า ซบ ‘สุวัจน์’ แย้มขนพวกมาด้วย ชพน.นัดประชุม กก.บห.สัปดาห์หน้าก่อนประชุมใหญ่สิ้นก.ย. วางขุนพลใหม่ ลั่นอยากกลับไปเป็นพรรคใหญ่ “อรรถวิชช์” ย้ำเชื่อมั่น รวมความแกร่งแน่นประสบการณ์ สู่ #กล้าพัฒนาชาติ

 

วันที่ 2 ก.ย.2565 เมื่อเวลา 10.35 น. ที่บ้านเลขที่ 333 ซ.ราชวิถี 20 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) พร้อมนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ร่วมกันแถลงข่าว

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกพรรคต้องเตรียมพร้อมเรื่องการเลือกตั้ง พรรค ชพน.ได้ปรึกษากันว่า ใครที่เหมาะสมจะเข้ามากอบกู้เศรษฐกิจ และมาทำงานร่วมกัน เราคิดถึงนายกรณ์ เพราะมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจโดยตรง เคยเป็นรมว.คลัง ช่วยแก้วิกฤตต้มยำกุ้ง แฮมเบอเกอร์ จนทำให้เราผ่านวิกฤตมาได้ เคยทำงานเอกชนและทำงานในรัฐบาล เป็นรมว.คลังของโลกและเอเชีย สะท้อนถึงการยอมรับในระดับสากล พิสูจน์ผลงานให้เห็นชัดเจน ขณะเดียวกัน ยังมีประสบการณ์เป็นส.ส.ที่มาจากพื้นที่และมาการเลือกตั้ง เป็นนักเรียนนอก มีความเป็นสากล จบการศึกษาด้านนี้โดยตรง ถือเป็นหน้าเป็นตา

เราเชื่อมั่นว่านายกรณ์ จะเป็นผู้มาแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ร่วมกันทำงานกับพรรค จึงเชิญนายกรณ์ มาจับมือกัน รวมพลังแก้ไขปัญหาวิกฤตของบ้านเมืองในวันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นส่วนผสมทางการเมือง ทีมเวิร์กที่แข็งแกร่ง ผสมผสานมืออาชีพเศรษฐกิจและการเมืองเข้าไว้ด้วยกัน ตนมั่นใจจะทำให้เกิดความแข็งแกร่ง และแก้ไขปัญหาประชาชนให้ประสบความสำเร็จ

เมื่อถามว่าการมาของนายกรณ์ ครั้งนี้เป็นการรวมพรรคกันหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่ได้รวมพรรค เป็นการเชิญนายกรณ์ มาร่วมงาน ส่วนขั้นตอนเป็นเรื่องของนายกรณ์ จะดำเนินการให้ครบถ้วน ย้ำว่า พรรค ชพน.ยังอยู่ ส่วนนายกรณ์ จะอยู่ตำแหน่งไหนของพรรคนั้น ยังตอบไม่ได้ แต่ต้องมีบทบาทหน้าที่ที่ทำให้เกิดความมั่นใจทางเศรษฐกิจ ซึ่งในสัปดาห์หน้า หัวหน้าพรรคจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อดำเนินการประชุมใหญ่ของพรรคในสิ้นเดือน ก.ย.

เมื่อถามว่าจะถึงขั้นเสนอนายกรณ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้มองถึงจุดนั้น วันนี้เชิญมานายกรณ์ กู้วิกฤตเศรษฐกิจ ส่วนตำแหน่งอะไรในอนาคตว่ากันอีกที เป็นไปตามจังหวะทางการเมือง

ส่วนที่บอกว่าต้องรวมพลังกันแก้ปัญหา จะเชิญคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย มาร่วมกันด้วยหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า การเมืองวันนี้ต้องหันหน้าเข้าหากัน วันนี้ขอเริ่มต้นที่นายกรณ์ ส่วนท่านอื่นไปตอบแทนไม่ได้ ถ้าคิดร่วมมือกับใคร จับมือกับใครแล้วประชาชนได้ เป็นหน้าที่ที่เราต้องพิจารณา

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ตั้งเป้าไว้เท่าไหร่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตัวเลขยังตอบไม่ได้ แต่อยากเห็น พรรค ชพน.กลับมาเหมือนเดิม เป็นพรรคใหญ่ เป็นทางเลือกให้กับประชาชน มีบทบาทลดความขัดแย้ง สร้างเสถียรภาพทางการเมือง เมื่อถามว่าพร้อมร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะตอบ ขอให้เป็นไปตามจังหวะทางการเมือง วันนี้ถือเป็นเรื่องเชิญและเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ

ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า เราได้คุยกันและตัดสินใจที่จะจับมือกับพรรค ชพน. ซึ่งตัดสินใจง่ายมาก จะทำให้เรามีโอกาสช่วยประชาชนตามเป้าหมายได้มากขึ้น เมื่อถามว่ามาร่วมงานหรือรวมพรรคกัน นายกรณ์ กล่าวว่า เราจะร่วมมือกันในรูปแบบมีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนขั้นตอนว่าสุดท้ายรูปร่างหน้าตาจะเป็นอย่างไร คิดว่ามีขั้นตอนทางกฎหมายที่เราจะเดินตามนั้น ตนกับนายสุวัจน์ร่วมมือกัน 100 เปอร์เซ็นต์

ส่วนอนาคตพรรคกล้านั้น เป็นเรื่องของพรรคกล้าต้องพิจารณาว่าจะอย่างไรต่อไป ส่วนจะมีสมาชิกพรรคคนอื่นมาด้วยหรือไม่นั้น ตนตัดสินใจมา และได้คุยกับพรรคพวกทุกคน ซึ่งเห็นตรงกัน ทุกคนเห็นประโยชน์และมีความรู้สึกว่า นี่คือแนวทางที่จะทำให้ตนและเขาทำงานได้ และเสนอตนให้กับประชาชน

เมื่อถามว่าลาออกจากหัวหน้าพรรคกล้าหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ทั้งหมดต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ตนอยากตอบให้ชัดเจนกว่านี้ แต่ชัดเจนสุดคือจับมือทำงาน ถ้าไปดูข้อบังคับพรรคจะเข้าใจ

เมื่อถามว่าวันนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคกล้าอยู่หรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ ตนต้องเตรียมเข้าสู่รูปแบบการทำงานร่วมกันในอนาคต และการมาร่วมกับพรรค ชพน. ไม่เกี่ยวกับสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 100 การจับมือกันมันส่งผลในทางบวกกับโอกาสที่จะทำงานช่วยเหลือประชาชน สุดท้ายไม่ว่าหาร 100 หรือหาร 500 สุดท้ายไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจ

เมื่อถามว่าจะยุบพรรคกล้าหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการควบรวม สถานะของ 2 พรรคยังเหมือนเดิม ส่วนผู้บริหารพรรคกล้าจะตามมาด้วยหรือไม่นั้น เป็นขั้นตอนของคนที่อยู่ในพรรค ต้องดำเนินการตามกฎหมาย สาระสำคัญที่มาจับมือกับนายสุวัจน์ ประเด็นบ้านเมืองและเศรษฐกิจ ดีกว่าต่างคนต่างทำ ตนจะให้ความร่วมมือเต็มที่กับนายสุวัจน์ ในการตอบสนองความต้องการของประชาชนในสภาวะวิกฤต

ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลังการแถลงข่าวของ 2 นักการเมืองรุ่นใหญ่ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ได้โพสต์ข้อความของการจับมือกันของทั้ง 2 ว่า