“ไทยสร้างไทย” อัดรัฐ ล้มเหลว คุมราคาสินค้าไม่อยู่ จี้เร่งหามาตรการดูแลปชช.

“ไทยสร้างไทย” อัดรัฐ ล้มเหลว คุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่อยู่ ปล่อยพาเหรดขึ้นราคา แทบทุกรายการ แนะเร่งหามาตรการดูแลพี่น้องประชาชน ที่มากกว่าสั่งห้ามผู้ประกอบการขึ้นราคาสินค้า

 

วันที่ 18 สิงหาคม 2565 นายภัชริ นิจสิริภัทร คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการปรับขึ้นราคาของสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ไข่ไก่ ปรับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม ปรับ 2 ครั้ง ในรอบ 1 เดือน ประกาศขึ้นราคา 10 สตางค์/ฟอง หรือ 3 บาท/แผง (30 ฟอง) จาก 3.50 บาท เป็น 3.60 บาท/ฟอง สูงสุดเป็นประวัติการณ์สูงสุดในรอบปี

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จ่อขึ้นราคา จากซองละ 6 บาท เป็น 8 บาท ซึ่งกระแสข่าวการขึ้นราคามีมาโดยตลอด เพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นได้

รวมถึงค่าไฟฟ้า ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับเพิ่มเอฟที (Ft) อีก 68.66 สตางค์/หน่วย รวมเป็นค่าเอฟทีทั้งสิ้น 93.43 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาท/หน่วย กำหนดงวดเดือน กันยายนนี้

ทั้งหมดเป็นสถานการณ์ที่ประชาชนต้องเผชิญกับราคาสินค้า ที่ปรับตัวสูงขึ้นแทบทุกรายการ เป็นห้วงเวลาที่พี่น้องประชาชนได้รับความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสโดยเฉพาะวิกฤตทางเศรษฐกิจจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงต้นทุนการผลิตต่างๆก็ปรับตัวสูงขึ้น

จึงต้องเรียกร้องและส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลว่า นอกจากมาตรการในการชะลอและสั่งห้ามขึ้นราคาสินค้าโดยกระทรวงพาณิชย์แล้ว ผู้มีอำนาจและรัฐบาลจะมีมาตรการใด ออกมาบรรเทาความเดือดร้อน ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนตัวเล็กและผู้ประกอบการหรือไม่

“กำลังซื้อหดหาย สถานการณ์ของพ่อค้าแม่ค้าเงียบเหงาซบเซา เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมายังพอมีเงินอุดหนุนมาตรการต่างๆจากภาครัฐ ทำให้ร้านค้าต่างๆได้รับแรงกระตุ้นจากกำลังซื้อในระดับรากหญ้า แต่ขณะนี้ทั้งภาวะเงินเฟ้อสูง รัฐไม่อัดฉีดเงิน หรือต่อให้มีมาตรการอย่างโครงการคนละครึ่งออกมาแต่เงินน้อยลง พ่อค้าแม่ขายผู้ประกอบการ ก็ยังคงซบเซาอย่างแน่นอน”

ทั้งหมดเป็นยุทธศาสตร์การบริหารงานของรัฐบาลที่ผิดพลาดบกพร่อง ตั้งแต่การควบคุมราคาต้นทุนการผลิต การบริหารจัดการด้านพลังงาน การควบคุมราคาขนส่งต่างๆ ซึ่งทำให้พี่น้องประชาชนต้องแบกรับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับรายรับ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ///