เลขา สมช. คาด กลุ่มเดิมบึ้มป่วนใต้ หลังเจรจาสันติสุขคืบหน้า ชี้เทคนิคหวังผลต่อรอง

‘พล.อ.สุพจน์’ คาด กลุ่มเดิมบึ้มป่วนใต้ หลังเจรจาสันติสุขคืบหน้า ชี้เป็นเทคนิคหวังผลต่อรอง มอบ ‘กอ.รมน.ภาค 4 สน.-ตำรวจ’ เร่งล่าตัวคนร้าย

 

วันที่ 18 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อคืนวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ได้มีการประชุมหน่วยข่าวในพื้นที่เป็นการเร่งด่วนเพื่อรับฟังปัญหา และมอบแนวทางตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการ ในขณะที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ต่างๆ

โดยด้านความมั่นคงที่ดูแลใน 4-5 มิติ สำหรับประเด็นเร่งด่วนนั้นนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ส่วนสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนคือ ยกระดับมาตรการ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ไม่ให้มีความเสียหายต่อประชาชน ทุกกลุ่มและทุกฝ่ายรวมถึงระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ โดย กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้รับไปดำเนินการ

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปคือการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุร้าย เพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว มีความยุติธรรม และเป็นไปตามขั้นตอน จากนั้นต้องปรับระบบการทำงาน ในเรื่องความมั่นคง ทั้งการพูดคุยเพื่อสันติสุข มาตรการรักษาความสงบ และเดินหน้าทำความเข้าใจเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้มากขึ้น นอกจากนี้สิ่งที่รัฐบาลพยายามทำและมีความคืบหน้า คือพัฒนาพื้นที่ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีไปถึงระดับรากหญ้า พัฒนาระบบเศรษฐกิจในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการรายงานเบาะแส เกี่ยวกับการก่อเหตุในพื้นที่เข้ามาบ้างหรือไม่ เลขาธิการสมช. กล่าวว่า ได้รับรายงานข่าวมีอยู่แล้ว แต่การก่อเหตุครั้งนี้ ได้ปรับเปลี่ยนตัวผู้ก่อเหตุ แต่น่าจะเป็นกลุ่มเดิม ส่วนรายละเอียดนั้นให้รอฟังการสอบสวนของตำรวจ

เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเชื่อมโยงกับเรื่องของการเมือง พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ต้องดูในหลายมิติ การเมืองในมิติของการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือความต้องการในบริบทที่เกี่ยวกับการเมือง จะดำเนินการคู่ขนานกับการใช้กำลังด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง เพื่อก่อเหตุรุนแรง มีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และตำรวจ อยู่ระหว่างดำเนินการ จึงขอให้รอฟังความชัดเจน

เมื่อถามว่าได้ประเมินว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างไร พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า การก่อเหตุที่มีเป้าหมายเป็นผู้เปราะบางในพื้นที่ที่ประชาชนดำเนินชีวิตประจำวัน อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า กระทบกับเศรษฐกิจแน่นอน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญ เร่งแก้ไข และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงมีการก่อเหตุในช่วงปลายปี เหมือนเป็นจังหวะวงรอบในการก่อเหตุใช่หรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เป็นจังหวะของเหตุการณ์ หากติดตามการแก้ไข ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้รวมทั้งการพูดคุยเพื่อสันติสุขที่มีความคืบหน้าและพูดคุยกันบ่อย โดยครอบคลุมและกว้างขวางมากขึ้น ทั้งนี้กลุ่มที่เข้ามามีส่วนร่วมกับปัญหา ก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นเทคนิคที่จะต้องพยายามตอบสนอง โดยประเทศไทยต้องการให้ภาคใต้ เป็นพื้นที่สงบสุข อยู่ร่วมกันได้ ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม เศรษฐกิจดี ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงต้องนำมาผสมและปรับบไปเรื่อยๆ เพื่อให้แต่ละฝ่ายบรรลุวัตถุประสงค์ความต้องการของตัวเอง

เมื่อถามย้ำว่าแต่การก่อเหตุเกิดในช่วงที่มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2561 พลเอกสุพจน์ กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกัน เพราะถ้าดูในรายละเอียดแผนงานและโครงการที่ลงไปทำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเห็นว่ารัฐบาลตั้งใจมากที่จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพและงานทำ ประชาชนอยู่ร่วมกันได้ และมีความเจริญ