จตุพร ชวน ปชช.ชุมนุม23 สิงหา ลากไปถึงเที่ยงคืน ลั่นหลังจากนั้น ประยุทธ์จะเป็นนายกเถื่อน

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว คณะหลอมรวมประชาชน นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา จัดกิจกรรม ‘ประยุทธ์ต้องไป คนไทยลุกขึ้นสู้’

บรรยากาศเวลา 19.50 น. นายจตุพร ขึ้นปราศรัยพร้อมมีการเปิดเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย ของคณะคสช. นายจตุพรกล่าวว่า วันนี้ตนเป็นผู้ทำหน้าที่เผาจริงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ครบ 8 ปีแล้ว คนไทยทนกับนายกฯคนไหนไม่ได้ แต่ทนกับพล.อ.ประยุทธ์ได้

“ตอนนี้เราถูกสร้างปรากฏการณ์ว่าอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ก็ไปแล้ว เดี๋ยวก็มีการเลือกตั้ง แต่เชื่อถอะว่าเขาไม่ไป เพราะธรรมชาติของผู้นำเผด็จการทั้งหลายไม่เคยลงจากหลังเสือเองเป็นส่วนใหญ่ ถามว่าจะเอาลงจากหลังเสือได้อย่างไรก็ต้องเอาเท้าของประชาชนทำให้ลงจากหลังเสือ ตลอดเวลาในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เขาเป็นคนไว้ใจคน ท้ายที่สุดก็เป็นไปตามที่ผมพูดทุกประการว่าพล.อ.ประยุทธ์วางแผนยึดอำนาจ เมื่อยึดอำนาจก็ประกาศว่าจะอยู่ไม่นาน ค่อยๆโกหกไปทีละปีสองปี นี่โกหกมา 8 ปีแล้ว เพราะพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาโดยการฉีกรัฐธรรมนูญปี 5” นายจตุพรกล่าว

จากนั้น นายจตุพรได้อ่านเนื้อหามาตราที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับที่มาของอำนาจและเนื้อหาในมาตรา 158 ในรัฐธรรมนูญ

นายจตุพร กล่าวอีกว่า มีความพยายามสร้างความไขว้เขวให้กับประชาชนว่ามีแนวทาง 3 ทางเท่านั้น แต่วาระนายกฯ มีทางเดียวเท่านั้นนั่นคือคุณจะเป็นนายกมากี่ครั้ง ไม่ว่าคุณจะใช้รัฐธรรมนูญใด ต้องนับมารวมทั้งสิ้น ยกตัวอย่างกรณีของนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่กระทำความผิดในปี 2538 ขณะนั้นประเทศไทยใช้รัฐธรรมนูญปี 2534 แก้ไขปี 2535 แต่รัฐธรรมนูญปี 2560 มาบัญญัติภายหลังว่าถ้าต้องคำพิพากษาจำคุกในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ห้ามลงสมัครส.ส.ตลอดชีวิต นั่นคือกฎหมายมีผลย้อนหลัง เพราะรัฐธรรมนูญปี 2534 ไม่ได้ห้ามนายสิระลงสมัครส.ส.ตลอดชีวิต เช่นเดียวกันกับนักการเมืองที่เป็นรัฐมนตรีที่ต้องคำพิพากษาจำคุกแล้วถูกตัดสิทธิ์ตลอดชีวิตทั้งสิ้น การพยายามหาช่องทางเพื่อช่วยพล.อ.ประยุทธ์นั้นเป็นเรื่องที่จะนำพาประเทศเข้าสู่วิกฤต

“ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประชาชนคนไทยมีความยากจน มีความเหนื่อยล้า มีความยากลำบาก และคนไทยก็อยู่กับการเสียสัตย์ของพล.อ.ประยุทธ์มายาวนานที่สุด อยู่กับความหายนะของชาติจนไม่ได้มองเห็นความสว่างใดๆ และพี่น้องก็คงจะเห็นกันว่าเราถูกสร้างให้เกิดความรู้สึกตามที่ผมบอกว่าเดี๋ยวเราก็มีการเลือกตั้งแล้ว เดี๋ยวเราก็ชนะการเลือกตั้ง แต่ไม่ลองไปดูว่ากฎเกณฑ์กติการัฐธรรมนูญอยู่อย่างไร บทเฉพาะกาลยังให้อำนาจส.ว.250 คนมีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วง 5 ปีนี้” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพรกล่าวว่า ในการนัดหมายในวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม เพื่อเราจะได้เตรียมความพร้อม โดยจะมีการทำเสื้อแจกทุกคนที่มาร่วม ถ้าวันที่ 21 สิงหาคมเรามากันจำนวนมากจนยาวไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และวันที่ 22 สิงหาคม พี่น้องไปถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ยังไม่พอวันที่ 23 สิงหาคม ไปถึงทำเนียบรัฐบาล วันที่ 24 สิงหาคม เช็กบิลพล.อ.ประยุทธ์ ชะตากรรมความเลวร้ายของประเทศนี้ไม่มีใครช่วยพี่น้องได้ ไม่มีสิ่งใดมาทำให้ประเทศไทยพ้นทุกข์ได้ ไม่มีสิ่งใดมาทำให้พี่น้องพ้นจากความยากลำบากได้ มีแต่พี่น้องเท่านั้นที่จะลุกขึ้นมาจัดการกับชีวิตของพี่น้องเอง

โดยในตอนท้ายนายจตุพรได้นัดหมายการชุมนุมในครั้งต่อไปในวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และวันที่ 23 สิงหาคม เวลา 17.00 น. และลากการชุมนุมไปถึงเวลาเที่ยงคืน

“หลังจากเที่ยงคืนประเทศนี้ไม่มีนายกอีกต่อไป พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกเถื่อน หากใช้งบประมาณจะเท่ากับเป็นการปล้น เพราะฉะนั้น เรามาเคาต์ดาวน์กัน หลังจากเที่ยงคืนวันนั้นประเทศไทยเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” นายจตุพรกล่าว จากนั้นเวลา 20.50 น. ผู้ปราศรัยได้ขึ้นบนเวทีและร้องเพลงของคณะหลอมรวมประชาชน