ปชป.เปิดตัว 30 เลือดใหม่ทวงฐานเสียงปักษ์ใต้ ‘จุรินทร์’ เสียงสั่น ‘มาครั้งนี้เหมือนกลับบ้าน’

ปชป.ยกทัพเปิดตัว 30 เลือดใหม่ทวงคืนปักษ์ใต้ ‘จุรินทร์’ เสียงสั่นเครือ ‘มาครั้งนี้เหมือนกลับบ้าน’

 

วันที่ 14 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ประสานงาน สำนักงานพรรคประชาธิปัตย์ สงขลา ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้แนวคิด “รวมพลัง 30 เลือดใหม่ ทวงปักษ์ใต้คืน” โดยในจังหวัดสงขลา นั้น นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ ได้นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 9 เขต ขึ้นเวที ท่ามกลางประชาชนที่ให้การสนับสนุนอย่างล้นหลาม

โดยนายเดชอิศม์กล่าวว่า ประชาธิปัตย์เป็นพรรคเดียวที่เป็นสถาบันทางการเมือง เราไม่มีนายทุนพรรค เราจะเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น ก่อนหน้านี้ ปชป.บางจังหวัดอาจจะขัดแย้งไม่เป็นหนึ่งเดียว ยืนยัน ว่าหลังจากนี้ เราจะเป็นหนึ่งเดียวกัน ปชป.เราปรับตัว สำหรับผู้สมัครบางคนที่ใจไม่ถึงพึ่งไม่ได้ไม่ติดดินไม่ได้ ที่ไม่ติดดิน เราปรับตัว แม้แต่หัวหน้าพรรค ก็ปรับตัว ใจถึงพึ่งได้ ขณะนี้เราปรับทัพแล้ว หลังจากนี้เราก็จะเปิดนโยบายต่อไป

เพราะฉะนั้น จึงอยากจะเชิญชวนสมาชิก ปชป. ที่ออกไปแล้วกลับมา ปชป.ที่หันไปเลือกพรรคอื่น หลายคนบ่นแล้วว่า ไม่ดีเหมือน ปชป.ก็กลับมา แม้แต่ ปชป.เลือดใหม่ เด็ก อายุ 18-20 ปีสมัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลา มาสมัครเป็น ปชป.จำนวนมาก และเมื่อกระแสพรรคดีขึ้น ก็จะมีกระบวนการทำลาย ปชป.ยกตัวอย่าง เช่น การทำบุญพรรค ครบรอบ 77 ปี ที่ ปชป.เราทำบุญที่ที่ทำการพรรค ปชป.ในช่วงเช้าเป็นพิธีมุสลิมกับพราหณ์ ตอนบ่ายทำพิธีสงฆ์ มีสื่อ มีขบวนการทำลาย ปชป.ลงข่าวว่า เราทำบุญเพียง 2 ศาสนา หาว่า ปชป.เราไม่เอาศาสนาพุทธ นี้คือ การทำลายให้เครดิต ปชป.เสียหาย นอกจากนั้น ในภาคใต้ ตนเป็น รองหัวหน้า ปชป.ก็ทำลายผมให้เสียเครดิต ยกตัวอย่างที่กรณีการบุกรุกหัวเขาแดง อ.สิงหนคร ถ้าติดตามข่าวโยงผมเกี่ยวกับเขาแดง ผมก็แถลงยืนยันว่าเกี่ยวข้อง และแถลงยืนยัน ว่าหากเกี่ยวข้อง ลาออกไม่เล่นการเมืองตลอดชีวิต ปรากฏว่าเอาผิดผมไม่ได้ นอกจากนั้น ก็ยังมีประเด็นเรื่อง โทนีเตียว นักธุรกิจชาวมาเลเซีย เจ้าของธุรกิจในเครือ MBI ในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ที่ถูกจับกุมในข้อหาฟอกเงิน ก็มาหาว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับตนเอง ยืนยันว่า ตนไม่ได้เงินเค้าสักบาท วันนี้มาชี้แจง ยืนยัน ว่าในฐานะที่เป็นคนไทย ในฐานะที่เป็นชาวสงขลา ต้องอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ยืนยันกับพี่น้องชาวไทย พี่น้อง ปชป.โดยเฉพาะอย่างยิ่งยืนยันกับชาวสงขลา ผมจะไม่ทำให้พี่น้องต้องผิดหวังในตัวผมอย่างแน่นอน

ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพร้อมสำหรับผู้สมัครของพรรคในภาคใต้ว่า เรื่องตัวผู้สมัครของพรรค ตนยืนยันเลยว่าเราครบมาเป็นปีแล้ว มีความพร้อมแล้ว เพียงแต่รอดูจังหวะเวลาในการเปิดตัวที่เหมาะสม และวันนี้ผู้สมัครของเรามีความเข้มแข็งในพื้นที่ด้วย สิ่งที่ประชาธิปัตย์เรากำลังทำในพื้นที่ภาคใต้คือเรื่องความมีเอกภาพ ความเป็นหนึ่งเดียวของประชาธิปัตย์ ครั้งนี้เราสู้การเมืองแบบที่บอกเลยว่า ประชาธิปัตย์ในภาคใต้คือบ้านเรา เพราะฉะนั้นวันนี้ประชาธิปัตย์ต้องเอาบ้านหลังนี้กลับคืนมา

เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ หากโค้งสุดท้ายผู้สมัครของพรรคอาจถูกพรรคอื่นฉกตัวไป เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะสุดท้ายแล้วพี่น้องประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด การไปมาของคนในพรรคไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ในระหว่าง 3 ปีกว่าก่อนจะถึงการเลือกตั้ง ทุกสมัยก็จะเป็นอย่างนี้ จะมีคนไปมีคนมา ประชาธิปัตย์ก็มีคนมา แต่ว่ารอนิดนึงก่อน

เมื่อถามว่า จากการตั้งเป้าหมาย 30-40 เขต มีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้มี 58 เขต ก็สู้ทั้ง 58 เขตเลย ได้กี่เขตไปว่ากันอีกที สุดท้าย 1.อยู่ที่พี่น้องประชาชน 2.อยู่ที่ตัวผู้สมัคร กับผลงานของพรรค ที่เราดำเนินการมา 3 ปีกว่าจะเป็นตัวตัดสิน

“วันนี้ผมนั่งคิด ส.ส.ใต้ เมื่อเช้านับดูแล้วมีประมาณ 2-300 คน จาก 58 เขต เมื่อเอาทุกพรรคมารวมกัน แต่สุดท้ายพี่น้องประชาชนจะเป็นคนให้คำตอบทั้งหมด และผมก็มั่นใจว่า นี่คือบ้านของผม ผมต้องรักษาแล้วก็ต้องเอาคืน” นายเฉลิมชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ดีขึ้นจากการเลือกตั้งปี 62 หรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ตนเคยประกาศไปแล้ว วันที่พรรคกำลังมีปัญหาว่า ถ้าได้ ส.ส.ต่ำกว่า 52 จะเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต ประกาศวันนั้นก็ติดตัวผมไปอยู่แล้ว นี่คือคำมั่นสัญญา อยู่ที่พี่น้องประชาธิปัตย์ ตนเชื่อว่า ถ้าประชาธิปัตย์มีเอกภาพ เราสู้ได้ทุกพรรค สู้นี้คือสู้เพื่อชนะใจพี่น้องประชาชน ไม่ใช่สู้แบบไประรานใคร

นายจุรินทร์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันพิเศษอีกวัน คือ วันที่ ปชป.ยกทัพใหญ่ ทวงคืนปักษ์ใต้ ขอขอบคุณคนปักษ์ใต้ทุกคน ที่สนับสนุน ปชป.76 ปีเต็มๆ และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 77 ตั้งแต่นายควง อภัยวงศ์ เป็นหัวหน้าพรรค จนมาถึงตนเอง ปชป.มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 8 คน เป็นคนปักษ์ใต้ 3 คน ตนเองเป็น ส.ส.มาแล้ว 11 สมัย ปชป.มีนายกรัฐมนตรี 4 คน คือ ควง อภัยวงศ์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายชวน หลีกภัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐบาลมาหลายครั้ง แต่ก็เป็นฝ่ายค้านมาหลายรอบ เคยรุ่งเรืองและตกต่ำ พี่น้องให้การสนับสนุน เราสร้างความดี ให้ผลงานมาตลอด 76 ปี เต็ม ในยามที่เราตกต่ำ เราก็เป็นฝ่ายค้านทำหน้าตรวจสอบรัฐบาลอย่างสมศักดิ์ศรี พี่น้องลงโทษบ้างแต่เราก็ไม่เคยท้อถอย วันนี้ถือว่ากลับบ้าน พบพี่น้อง พ่อแม่ ปู่ย่า มาหาพี่น้อง (พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ) ปชป.เคยตกต่ำ ปี 2522 เราได้ ส.ส.15 ที่นั่งแต่หลังจากนั้น 2554 เราได้มาเป็น 50 ที่นั่ง ครั้งที่แล้ว ปชป.ลงมาเหลือ 22 ที่นั่ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เที่ยวหน้าเราจะกลับมา 35/40 ไม่ได้ใช่มั้ย วันนี้เราจึงมารวมกัน 30 เลือดใหม่ ทวงปักษ์ใต้คืน มั่นใจว่าพี่น้องไม่ทิ้งเรา การเลือกตั้ง 2 ครั้งในปักษ์ใต้ เราชนะทั้ง 2 ครั้ง และที่จังหวัดราชบุรี เราก็ชนะ 3 เพราะเหตุใดเราจะได้ 35-40 ไม่ได้ วันนี้ ถือโอกาสประกาศชื่อเลือดใหม่ ของ ปชป.

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์กรณีการลงพื้นที่จังหวัดพังงาของพรรคภูมิใจไทยว่า ตนไม่มีอะไรจะชี้แจง และไม่อยากไปยุ่งกับเรื่องนั้น ประชาธิปัตย์เราเน้นทำงานการเมืองสร้างสรรค์ และจะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัคร นโยบาย หรือทิศทาง การทำงาน หลังการเลือกตั้ง เป็นสิ่งที่เรายึดมั่นและเดินทางไปตามแนวทางนี้

“การที่จะไปเที่ยวแขวะคนนั้นคนนี้ ไปทะเลาะคนนั้นคนนี้ไม่ใช่แนวทางที่เราจะเดิน ส่วนใครจะไปพื้นที่ไหน ผมไม่ไปเกี่ยงว่าพรรคนั้นไปพื้นที่นี้ได้ ไปพื้นที่โน้นไม่ได้ ประชาธิปัตย์ไปโน่นได้ ไปนี่ไม่ได้ ทุกพรรคก็มีสิทธิที่จะไปหาเสียง ที่พังงาก็เป็นพื้นที่หนึ่งซึ่งประชาธิปัตย์เราก็มั่นใจว่าเมื่อถึงเวลา พี่น้องประชาชนคนพังงาก็ยังให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งใหญ่ครั้งแรกที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนพังงา” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ตนมีความมั่นใจว่าทั้ง 2 เขตไม่มีปัญหา เพียงแต่ตอนนี้ผู้สมัครในเขต 1 มีความชัดเจนแล้ว แต่เขต 2 มีคนที่มีศักยภาพทั้ง 2 คน ที่สนใจลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นจึงเห็นว่าเราอยากได้คนที่น่าจะได้รับเสียงตอบรับดีที่สุด ทั้งที่ทั้งคู่ก็ดีที่สุดอยู่แล้ว มีคุณภาพที่สุด จึงใช้วิธีทำโพล และทั้ง 2 ท่านก็ยอมรับที่จะให้โพลเป็นตัวตัดสิน และผู้ที่ไม่ได้ลงเลือกตั้งครั้งนี้ก็ยังจะทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป ตนได้พูดคุยกับทั้งสองท่านแล้ว

เมื่อถามว่า การปะทะคารมกันระหว่าง 2 พรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรหรือไม่ หัวนายจุรินทร์กล่าวว่า เราต้องแยกกัน การแข่งขันทางการเมืองก็เป็นส่วนการแข่งขันทางการเมือง การทำหน้าที่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นการทำหน้าที่ในฐานะพรรคร่วม ซึ่งประชาธิปัตย์ไม่เคยมีปัญหาเลยในการทำหน้าที่ในฐานะพรรคร่วม เพราะเรามีหลักมีเกณฑ์ และมีจุดยืนแนวทางของเรา ประชาธิปัตย์นิ่งมากในการทำงานหน้าที่ในรัฐบาล 3 ปี จนขึ้นปีที่ 4 อะไรคือหลักการ อะไรเป็นสาระ อะไรไม่ใช่สาระ เราเข้าใจมันดีหมด เพราะฉะนั้นเมื่อเราอยู่ร่วมรัฐบาลเราก็ทำงานกับรัฐบาลได้เป็นอย่างดี และสร้างผลงานเยอะแยะมากมายไปหมด ส่วนการแข่งขันทางการเมืองเมื่อใกล้เลือกตั้งมันก็เป็นธรรมดาที่จะต้องแข่งกัน ประชาธิปัตย์ก็ต้องแข่งกับทุกพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องการแข่งขันทางการเมืองจากอดีตที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์จะขึ้นชื่อในเรื่องการตอบโต้ทางการเมือง สำหรับการหาเสียงครั้งนี้จะมีรูปแบบเปลี่ยนไปอย่างไรหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จะมุ่งเน้นแนวทางสร้างสรรค์ ซึ่งเราก็ยึดมั่นมาตลอด ยกเว้นว่าจำเป็นต้องชี้แจง เกิดการพาดพิงในสิ่งที่อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องชี้แจง ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อยู่ๆ จะไปเที่ยวแขวะคนนั้นก่อนคนนี้ก่อนไม่ทำหรอก

สำหรับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เลือดใหม่ประกอบด้วย

จ.นครศรีธรรมราช เขต 1 นายราชิต สุดพุ่ม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี , เขต 2 นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์, เขต 7 นางอวยพรศรี เชาวลิต สมาชิกสภา อบจ.นครศรีฯ เขตอำเภอท่าศาลา

จ.สงขลา เขต 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้ช่วยดำเนินงานประธานรัฐสภา, เขต 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายก อบจ.สงขลา, เขต 3 นายสมยศ พลายด้วง นักธุรกิจ, เขต 4 นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว รองนายก อบจ.สงขลา, เขต 7 นายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา, เขต 9 นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ผู้ช่วย ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง