จีนฉุน! ประกาศคว่ำบาตร รมช.คมนาคมลิทัวเนีย เหตุบินเยือนไต้หวัน

วันที่ 13 สิงหาคม 65 ที่ผ่านมา รอยเตอร์สรายงานว่า กระทรวงต่างประเทศจีน ได้ประกาศคว่ำบาตร แอคเน ไวชึค์ไวชึต้า รัฐมนตรีช่วยคมนาคมและการสื่อสารของลิทัวเนีย จากการเดินทางไต้หวัน รวมถึงจีนได้ระงับการมีส่วนร่วมกับกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร และความร่วมมือด้านคมนาคมของลิทัวเนีย โดยกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของรัฐมนตรีช่วยฯ เหยียบย่ำหลักการจีนเดียว แทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง ทำลายอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน

ด้านกระทรวงคมนาคมและการสื่อสารของลิทัวเนียแถลงเสียใจต่่อท่าทีของจีนในครั้งนี้ โดยระบุว่า รัฐบาลจีนเลือกที่จะดำเนินการต่อและกระชับแนวทางการดำเนินการที่ผิดกฎหมายต่อ ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป นี่จึงไม่เพียง สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เอื้อต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ของจีนกับโลกประชาธิปไตยเท่านั้น แต่ยังเป็นการพลิกกลับนโยบายที่ปักกิ่งประกาศไว้ โดยไม่ขัดขวางการพัฒนาความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับไต้หวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้าที่สุดในโลก

ขณะที่ กระทรวงต่างประเทศไต้หวันออกมาประณามการประกาศคว่ำบาตรของจีน โดยกล่าวว่าลิทัวเนีย เจอการตอบโต้เอาคืนอย่างไร้เหตุผล โดยจีน ทั้งนี้ ไต้หวันให้คำมั่นว่าจะพยายามอย่างเต็มที่ต่อไปเพื่อช่วยเหลือลิทัวเนียเพื่อตอบโต้การปราบปรามอย่างไม่สมเหตุผลและตามอำเภอใจของรัฐบาลจีน

การเดินทางเยือนไต้หวันของรัฐมนตรีช่วยคมนาคมและการสื่อสารลิทัวเนีย เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน และจีนออกอาการแข็งกร้าวอย่างรุนแรงด้วยการจัดการซ้อมรบกระสุนจริง รอบเกาะไต้หวันและการซ้อมรบบางจุดไปกระทบกับพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่นด้วย

ทั้งนี้ ลิทัวเนียกระชับความสัมพันธ์กับไต้หวันอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ ไต้หวันเตรียมตั้งสำนักงานผู้แทนถาวรขึ้นในกรุงวิลนีอุส เมืองหลวงของลิทัวเนีย ซึ่งสร้างความไม่พอใจกับรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนอย่างมาก นำไปสู่การตัดความร่วมมือและระงับการนำเข้าสินค้าจากลิทัวเนีย ทำให้สหภาพยุโรปหรืออียูร้องเรียนกับองค์การการค้าโลก กล่าวหาจีนดำเนินปฏิบัติทางการค้าที่กีดกันลิทัวเนียและโต้แย้งว่าสิ่งนี้คุกคามความสมบูรณ์ของตลาดเดียวของกลุ่มสหภาพ

รบ.ไทเปขอบคุณสหรัฐฯที่ปกป้องความมั่นคง

ก่อนหน้านี้ กระทรวงต่างประเทศไต้หวัน ออกมาแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อสหรัฐฯ ที่ “ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม” เพื่อรักษาความมั่นคงและสันติภาพในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาค

โดยเคิร์ท แคมป์เบล ผู้ประสานงานด้านอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐ กล่่าวว่า จีนแสดงออกแบบเกินเหตุต่อนางเพโลซีที่เดินทางเยือนไต้หวัน

ต่อมากระทรวงต่างประเทศไต้หวันแถลงว่า “การข่มขู่ทางการทหารและเศรษฐกิจโดยปราศจากการยั่วยุ” ของจีนนั้น กลับเป็นการ “เสริมสร้างความสามัคคีและความยืดหยุ่นของค่ายประชาธิปไตยทั่วโลก”