‘อันวาร์’ สวนเดือด ‘หัวหน้าพรรคจุรินทร์’ ทำปชป.ตกต่ำที่สุด! แนะเตรียมใจไว้เลือดไหลอีกเพียบ

‘อันวาร์’ เดือดอีกแล้ว!! ยก 3 เคทสวน ‘จุรินทร์’ ปมขัดมติพรรค ซัดไม่สำนึกตัว ทำ ปชป.ตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์ แนะให้เตรียมใจใกล้เลือกตั้งเลือดจะยังไหลออกอีกเพียบ
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุพาดพิงตนเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า ตนจำเป็นต้องชี้แจงสังคมเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดที่ระบุว่า ตนโหวตสวนมติพรรคทำให้พรรคเสียหายนั้น เคยชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า การโหวตลงมติในสภาต้องไม่ฝืนความรู้สึกของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่เลือกเรามาเป็นตัวแทนเขา จำได้หรือไม่ กรณีพรรคประชาธิปัตย์มีมติเรื่องมาตรา 44 ว่า ควรเสนอสภาให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเรื่องนี้เข้าสภาและที่ประชุมสภาเห็นชอบแล้ว แต่ที่สุดกลับถูกสั่งให้พลิกมติ โดยที่ไม่มีคำอธิบายใดๆ จากพรรค อีกกรณีคือ พรรคมีมติส่งนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคไปเป็น กมธ.ตรวจสอบปัญหาการก่อสร้างอาคารรัฐสภา แต่พรรคก็พลิกมติ ไม่ได้ทำตามเสียงส่วนใหญ่ในพรรคหากทำจริง นายวิลาศคงไม่ออกมาระบุให้ข่าวว่า มีไอ้สามชั่วในพรรคประชาธิปัตย์ ที่ฟังคำสั่งหัวหน้าพรรคการเมืองอื่น ที่ขอไม่ให้นายวิลาศขึ้นเป็น กมธ.ชุดดังกล่าว จึงไม่แน่ใจว่า นายวิลาศจะยังอยู่ในพรรคต่อหรือไม่ แต่ทราบว่า มีผู้บริหารพยายามเจรจาขอร้องนายวิลาศไม่ให้ลาออก เพราะเกรงจะทำให้ภาพพจน์พรรคเลือดไหลออกไม่หยุด

นายอันวาร์กล่าวต่อว่า ล่าสุด กรณีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติให้สนับสนุนการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 100 ซึ่งตนก็สนับสนุน แต่ผลสุดท้ายมีการกลับมติของพรรค โดยกลับไปหนุนสูตรหาร 500 ของผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่พลิกลิ้นกลับไปกลับมา แต่ยังมีหน้ามาอ้างว่า ทุกคนต้องปฏิบัติตามมติพรรค

“ถามว่าสิ่งที่ผู้บริหารพรรคทำให้มติพรรคเป็นแบบนี้ เท่ากับไม่เห็นหัวประชาชนหรือไม่ คิดว่าประชาชนโง่หรือ การเลือกตั้งปี 2562 จากที่เคยมี 161 ส.ส. เหลือเพียง 52 ส.ส. ภาคใต้ถือเป็นเมืองหลวงของพรรคจาก 50 ที่นั่ง เสียไป 28 ที่นั่ง ยังไม่มีสำนึก ที่สำคัญคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ยังไม่ทันได้เปิดการประชุมสภายังไม่ได้ฟังรัฐมนตรีชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา แต่นายจุรินทร์ก็สั่งเป็นมติพรรคให้ยกมือก่อนฟังการอภิปราย นี่หรือมติของพรรคประชาธิปัตย์ ที่อ้างว่า ส.ส.ต้องปฏิบัติตามมติพรรค มิฉะนั้นจะทำให้ส่วนรวมเสียหาย เพราะเหตุนี้เมื่อส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. จึงแพ้ขาดลอยเพราะไม่เห็นหัวประชาชน ยังมีหน้ามาประกาศว่า ทุกคนยังต้องทำตามมติพรรคอีกหรือ ดูผลโพลที่ออกมาแต่ละสำนัก พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์การตั้งพรรคมา” นายอันวาร์กล่าว

นายอันวาร์กล่าวต่อว่า ส่วนที่นายจุรินทร์ระบุว่า บางครั้งพรรคต้องตัดสินใจอะไรที่เป็นปัญหา พรรคต้องกล้าเอาหนองออกไปเพื่อให้เลือดใหม่ได้มีโอกาสเข้ามา ซึ่งจังหวัดปัตตามีเลือดใหม่แล้ว และได้ลงพื้นที่หาเสียงหลายเดือนแล้วนั้น ไม่น่าเชื่อว่าเป็นการสัมภาษณ์ของคนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะสมาชิกพรรคกว่า 20 คนที่ลาออกไปในยุคที่นายจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรค หลายคนเป็นอดีตรัฐมนตรีเคยอยู่กับพรรคมากว่า 20-30 ปี แล้วจะทิ้งพรรคไปได้อย่างไร แต่การจากไปของท่านเหล่านั้น เพราะไม่สามารถทนต่อพฤติกรรมทางการบริหารในพรรค ซึ่งสังคมไม่น่าจะรับได้ เช่น เมื่อถูกกล่าวหาเรื่องทุจริตหน้ากากอนามัย ถึงกับออกอาการรีบตั้งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นมาสอบตนเองเพื่อฟอกขาว แต่คนปกติเขาไม่ทำกัน ส่วนเรื่องการทุจริตถุงมือยางก็ตั้งคนของตนเองเข้าไปเป็นประธานองค์การคลังสินค้า (อคส.) แล้วอ้างว่า ตัวเองไม่เกี่ยว เป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์ฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบ คือคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะเป็นผู้อนุมัติ แม้กระทั่งการแต่งตั้งเลือดใหม่ เข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรค ทั้งที่สมาชิกหลายคนทักท้วงว่าคุณสมบัติไม่เหมาะสม เพราะเคยมีคดีล่วงละเมิดทางเพศในต่างประเทศ ก็ไม่รับฟัง สุดท้ายเกิดเหตุเป็นข่าวอื้อฉาว ทำให้พรรคเสียหายมาก แต่นายจุรินทร์ก็ไม่รับผิดชอบ สมาชิกพรรคหลายคนจึงลาออกเพื่อกดดัน แต่ก็ไร้ผล เพราะความทนทานของนายจุรินทร์

“การที่พรรคประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคเช่นนี้ จึงทำให้พรรคตกต่ำลงไปเรื่อยๆ หรือไม่ และขณะนี้ขั้วอำนาจในพรรคก็แตกแยกออกเป็น 2 ฝ่าย จากที่เคยประสานตามสโลแกน ‘เกษตรผลิต พาณิชย์ขาย’ กำลังจะเปลี่ยนไปเป็น ‘เกษตรจ่าย พาณิชย์เก็บ’ ดังนั้น อย่าตกใจ เมื่อใกล้เลือกตั้งจะมีสมาชิกพรรคลาออกมากกว่านี้ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ด้วย” นายอันวาร์กล่าว