“กิตติ์ธัญญา” หวั่น “ประยุทธ์” ตีเช็คเปล่า! ถลุงงบเอื้อเหล่าทัพพรรคร่วมรัฐบาล

“กิตติ์ธัญญา” หวั่น “ประยุทธ์” ถลุงงบเอื้อเหล่าทัพพรรคร่วมรัฐบาล อัดรัฐบาลตีเช็คเปล่าให้รัฐบาลใช้จัดงบประมาณเห็นแก่ตัวไม่เกิดประโยชน์

 

วันที่ 10 สิงหาคม 2565 นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การจัดสรรงบประมาณปี 2566 ที่ผ่านมาพบว่าเป็นการจัดทำงบประมาณแบบเห็นแก่ตัว หลายงบประมาณที่จัดสรรมาไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะงบกระจุก ไปอยู่ในส่วนของกองทัพ งบเพื่อความมั่นคงและงบเอื้อพรรคการเมือง ร่วมรัฐบาลมากกว่าแก้ปัญหาให้ประชาชนและฟื้นฟูประเทศหลังโควิด

น่าประหลาดใจว่า ปีนี้ พลเอกประยุทธ์ ตั้งงบกลางปี 2566 ไว้ที่ 590,470 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18.5% ของงบประมาณรวมทั้งหมด ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในโครงสร้างงบประมาณ ทั้งนี้เมื่อนำตัวเลขงบกลาง ตลอดอายุของรัฐบาล “ประยุทธ์ 2” มารวมกัน จะพบว่ามีการตั้งงบ ก้อนนี้เอาไว้สูงถึง 2,311,262.4 ล้านบาทการตั้งงบกลางของรัฐบาล ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ อย่างต่อเนื่อง ว่าเป็น การตีเช็คเปล่า ให้พลเอกประยุทธ์เพราะไม่ปรากฏ รายละเอียด ของโครงการ แต่มีเฉพาะหัวข้อกับวงเงินเท่านั้น ไม่มีโอกาสตรวจสอบและ กลั่นกรองการใช้จ่ายเงินงบประมาณก่อน

นางสาว กิตติ์ธัญญา กล่าวด้วยว่า การตั้งงบกลางไว้สูงถึงขนาดนี้ เป็นการแสดงเจตจำนงค์ชัดเจนว่าจะนำเงินที่มาจากภาษีของประชาชนไปหาประโยชน์ทางการเมืองและเอื้อกับพวกพ้อง ไม่ได้มีไว้เพื่อแก้ปัญหาให้กับ พี่น้องประชาชนที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ไม่เคยมาชี้แจงต่อรัฐสภาว่า มีการนำงบประมาณกลางไปทำอะไรบ้าง เกิดประโยชน์อะไร

“พลเอกประยุทธ์ใช้งบประมาณโดยไม่สนใจพี่น้องประชาชน ที่ผ่านมามีการใช้งบกลางไปซื้รถถังให้กองทัพ อ้างเป็นเรื่องฉุกเฉินทั้งๆที่สามารถนำ ไปใส่ไว้ ในงบประมาณของกระทรวงกลาโหมได้ ยังไม่นับการนำเงินงบกลาง 20,000 ล้าน ไปแก้ภัยแล้งแต่ประชาชนไม่มีน้ำทำนา เมื่อร้องขอน้ำทำนารัฐบาล ก็อ้างให้รอฝนตก แล้วงบ 20,000 หายไปไหน นอกจากนี้ใน ช่วงที่จังหวัดอุบลราชธานีประสบปัญหาน้ำท่วมสูงจากอุทกภัย บ้านเรือน ประชาชนเสียหาย ชาวบ้านไร้ที่อยู่อาศัย รัฐบาลกลับไม่นำงบกลางมาช่วย ต้องขอบริจาคผ่านทีวี กว่าผู้เดือดร้อนจะได้รับเงิน ต้องรอข้ามปี ดังนั้นงบประมาณกลางกว่า 590,000 ล้านบาท ที่ให้อำนาจพลเอก ประยุทธ์ใช้จ่าย ชัดเจนว่ามีไว้เพื่อกองทัพกับพวกพ้อง ไม่ได้มีไว้ แก้ปัญหาให้ประชาชนแต่อย่างใด”นางสาว กิตติ์ธัญญากล่าว