นายกฯ สั่ง ผู้ว่าฯ-ปภ.รับมือน้ำจากฝนตกหนัก 7-9 ส.ค. ระวังน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา

นายกฯ สั่ง ผู้ว่าฯ-ปภ.รับมือสถานการณ์น้ำจากฝนตกหนัก 7-9 ส.ค. ระวังน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ย้ำ แจ้งเตือนประชาชนเกาะติดใกล้ชิด

 

วันที่ 8 ส.ค.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำของประเทศ โดยกำชับกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าฯอ่างทอง และผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา เตรียมพร้อมป้องกัน รับมือ ลดผลกระทบจากสถานการณ์น้ำ จากฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จ.หนองคาย (164 มม.) จ.ตราด (146 มม.) และ จ.ลำปาง (88 มม.) แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 46,566 ล้าน ลบ.ม. (57%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 40,545 ล้าน ลบ.ม. (57%) เฝ้าระวังน้ำน้อย บริเวณภาคเหนือ (3 แห่ง) และเตรียมความพร้อมรับมือน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำมูล

กรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ให้สอดคล้องกับคาดการณ์ปริมาณฝนตกหนักในช่วงวันที่ 7-9 ส.ค.นี้ จะทำให้เกิดน้ำท่าไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ประมาณกลางเดือน ส.ค. เพื่อให้บริหารจัดการน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอย่างเหมาะสม

โดยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 700-1,100 ลบ.ม.ต่อวินาที จะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำทยอยเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 0.20-0.80 เมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน

นายธนกร กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ให้ประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำ บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ จ.อ่างทอง และจ.พระนครศรีอยุธยา ให้เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. เป็นต้นไป

นอกจากนั้นขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนชาวเรือ บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่ง จนถึงวันที่ 9 ส.ค.

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯ กำชับกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าฯ ในฐานะผอ.กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ให้เฝ้าระวังพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรงภาคใต้ ตามที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางได้กำหนดไว้

ย้ำให้เตรียมพร้อมเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ รวมทั้งลดผลกระทบจากสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเตรียมพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ กำลังพล ให้พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชม. โดยหากประเมินสถานการณ์แล้ว

คาดว่าจะเกิดสถานการณ์ หรือสถานการณ์ขยายวงกว้าง ให้มอบหมายบุคลากรชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และประสานด้านข้อมูลกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ ให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อสายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ได้ตลอด 24 ชม.