กลุ่มธุรกิจกลางคืน-ดริงก์ ชะลอยื่น ‘ศบค.’ ทบทวนปิดตี2 ส.แอลกอฮอล์ ยันผับไหม้-ตะลุมบอน ไม่กระทบยอดนักดื่ม

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม แหล่งข่าวจาก เครือข่ายสถาบันบันเทิงกลางคืน เปิดเผยกับมติชนว่า หลังจากเกิดเพลิงไหม้ผับ เมาน์เท่น บีผับ (MOUNTAIN B) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ทางกลุ่มเครือข่ายสถานบันเทิงและสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย ได้หารือถึงสถานการณ์ภาคธุรกิจโดยรวม และมีข้อสรุปที่จะชะลอการยื่นหนังสือถึงรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)

ก่อนที่ศบค.ชุดใหญ่จะมีการประชุมในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ซึ่งเดิมกลุ่มผู้ประกอบการ ได้เตรียมข้อเสนอให้ศบค.พิจารณาทบทวนการขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิงและปล่อยให้กินอาหารและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย ถึงเวลา 02.00 น. จากปัจจุบันส่วนใหญ่ปิดในเวลา 24.00น.ถึง 01.00 น.ของวันถัดไป รวมถึงทบทวนเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการทบทวนพ.ร.บ.สุรา ในแง่กฎระเบียบต่างๆ เช่น การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงเวลา 14.00-16.00 น. การเปิด เป็นต้น

“ตอนนี้มีหลายเหตุการณ์ร้าย ทั้งการยิงกันที่จังหวัดอุบลฯ ผับไหม้จนเกิดเสียชีวิต หรือ การจับแก๊งค์เด็กตีกันเที่ยวเกินเวลาปิด เป็นต้น จึงมองว่าเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม ที่จะยื่นให้ศบค.ทบทวนในด้านธุรกิจ และจะทำให้สังคมตั้งคำถามหรือกังวลต่อการเพิ่มเวลาการใช้ชีวิตหรือเที่ยวกลางตามสถานบันเทิง ขณะเดียวกันก็จะหารือว่ากลุ่มเครือข่ายจะมีส่วนเข้าไปเพิ่มความสำคัญต่อการทำธุรกิจ โดยต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นส่งท้ายปี ” แหล่งข่าว กล่าว

นายธนากร คุปตจิตต์ ที่ปรึษาสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA) กล่าวถึงบรรยากาศการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบต่อการค้าและการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงนี้ เนื่องจากยังเป็นช่วงที่การกินดื่มนอกบ้านหรือท่องเที่ยวเริ่มนิ่งหลังหยุดยาวเดือนกรกฎาคมมาแล้ว อีกทั้งอยู่ในช่วงเข้าพรรษาและหน้าฝน การทำกิจกรรมนอกบ้านและการกินดื่มสุราจะน้อยกว่าปกติ

“ความคึกคักด้านบันเทิงและท่องเที่ยว จะกลับมาอีกครั้งในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป และจากเหตุการณ์ปะทะหรือผับไหม้ เทียบกับภาพรวมถือว่าเป็นส่วนน้อย ยิ่งจากนี้เข้มงวดมากขึ้นและปราบผู้ที่ไม่ถูกกฎหมายหรือผิดระเบียบ คววามวิตกต่อการเที่ยวสถานบันเทิงในไทย ของทั้งคนไทยและต่างชาติ ก็คลายลงในเวลาอันสั้น การทำกิจกรรมด้านบันเทิงก็จะกลับมาเหมือนปกติ ซึ่งปลายปีนี้ จะมีหลายกิจกรรมบันเทิงมากขึ้น หลังจัดกิจกรรมได้ปกติ และเปิดประเทศทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น “นายธนากร กล่าว