อดีตรมต.คลัง แนะแบงก์ชาติ ค่อยๆขึ้นดอกเบี้ย รักษาเงินบาทให้แข่งขันได้

ดร.สุชาติ อดีต รมว.คลัง​ แนะแบงค์ชาติ​ควรค่อยๆ​ ขึ้นดอกเบี้ย​ เพื่อลดเงินทุนระยะสั้นไหล​ออก โดยควรรักษาค่าเงินบาทให้แข่งขันได้​ จะทำให้เศรษฐกิจ​ไทยฟื้นขึ้นได้​ แม้ความยุ่งยากในโลก​ ยังมีมากมาย

 

วันที่ 5 สิงหาคม 2565 ศ​าสตราจารย์​ ดร.สุชาติ​​ ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ อดีตรัฐมนตรี​ว่าการกระท​รวงการคลัง​ ให้ความเห็นว่า

1.การที่ผู้ว่าแบงค์ชาติ​ดำเนินการอยู่​ ทำถูกจังหวะและเวลาแล้ว​ แบงค์ชาติ​ต้องพยุงประเทศไทยให้มีการฟื้นตัว​ทางเศรษฐกิจ​ และรักษาเสถียรภาพทางด้านราคาและการเงินไปพร้อมๆ​ กัน​ จึงต้องค่อยๆขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินทุนระยะสั้น​ไหลออก ในขณะเดียวกัน​ ต้องรักษาให้เศรษฐกิจ​ไทยให้เจริญเติบโต​ ด้วยการส่งออกและท่องเที่ยว​ โดยดูแลค่าเงินบาทให้แข่งขันได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศมีรายได้มากขึ้น​เพื่อนำมาลงทุน​ และมาสร้างงาน

2.การฟื้นประเทศให้ไปได้ให้ยั่งยืน​ ต้องเพิ่มรายได้ของประเทศ​ ก็คือการส่งออก (รวมต่างชาติ​มาเที่ยว)​ ซึ่งคิดเป็น​ 70% ของการผลิต​ (GDP​)​ รายได้นี้​ จะมาเพิ่มการลงทุนและการจ้างงานของภาคเอกชน​ และนำมาจ่ายเป็นภาษีเพิ่มขึ้น แล้วรัฐบาลนำภาษีที่เพิ่มขึ้นนี้​ มาลงทุน​ในส่วนของภาครัฐ เช่น ในโครงสร้างพื้นฐาน​ แหล่งน้ำ, ถนน, รถไฟฟ้า​ และระบบ Digital ประเทศไทย​ จึงจะเจริญเติบโตแบบจีน​ได้ อาจเรียกว่า​ “การพัฒนาแบบก้าวกระโดดโดยเร่งการส่​งออกและการลงทุน​ ซึ่งอาจเจริญเติบโตได้ถึง​ 7-8% ต่อปี

3.แต่การที่รัฐบาลไปกู้เงินมาลงทุน​ โดยประเทศมีอัตราความเจริญเติบโตต่ำ (Low GDP​ growth​ rates) การลงทุนนั้นๆ​ อาจได้ผลตอบแทนไม่ทันหนี้ที่ต้องจ่าย​ คืออาจติดกับดักหนี้ได้​ เช่น​ที่เกิดขึ้นในศรีลังกา, ลาว, ปากีสถาน​ และอัฟริกา​หลายประเทศ

4.การที่รัฐบาลกู้เงินมาแจก​ มาซื้ออาวุธ​ ยิ่งไปกันใหญ่​ สามารถเปรียบเทียบกับครอบครัวที่มีรายได้น้อย​ ไปกู้เงินมาให้คนในบ้านกินใช้​ โดยไม่ทำงาน​ ตัวเองก็กู้เงินไปซื้ออาวุธ​ ประเทศจะเป็นหนี้มากมาย​ แล้วล่มจม​ได้

5.ใน​สมการ GDP​=C+I+G+E-M มี​ E (การส่งออกรวมต่างชาติ​มาเที่ยว) ตัวเดียวเท่านั้นที่เป็นรายได้ของประเทศ ที่เหลือ​ C​ (การบริโภค), I (การลงทุน), G (รายจ่าย​รัฐบาล), M (การนำเข้า​ รวมคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ)​ ทั้งหมดเป็นรายจ่าย​ ไม่ใช่รายได้​ คือ​เราต้องไปทำงานได้​เงิน (GDP)​ มาแล้ว​ จึงนำมาแบ่ง​ เพื่อไปกินไปใช้​ แล้วหมดไป​ มีเพียงตัว​ I (การลงทุน) ที่เป็นรายจ่าย​ แล้วสามารถสร้างผลผลิตได้มากขึ้นในอนาคต​

6.การสร้าง​ความเจริญ​เติบโตของชาติ​ (GDP​ ​growth) ด้วยการเร่งการส่งออก​ จะทำให้เพิ่มทั้งรายได้​และการออมของประเทศ ซึ่งจะมีผลให้ทั้งรัฐบาลและเอกชนมีเงินตนเอง​ มาเพิ่มการลงทุนได้มากขึ้น​ ทำให้ระบบเศรษฐกิจ​เติบโตสูงขึ้น​ สามารถยกระดับมาตรฐาน​การครองชีพประชาชน จากประเทศรายได้ปานกลาง​ เป็นประเทศรายได้สูง​ คือ​ รายได้ต่อหัวในปี 2020​ เกิน​ 12,696​ เหรียญ​$ ต่อคน​ต่อปีได้เร็วขึ้น (รายได้ต่อหัวของไทยปี​ 2020​ เป็น​ 7,233 เหรียญ​$​)

7.รัฐบาลปัจจุบันคิดผิดทาง​ตรงกันข้ามเลย​ แทนที่จะทำให้ประชาชนได้ไปทำงาน​ ไปสร้างรายได้เพิ่มขึ้น​ โดยมีวันหยุด​เท่าที่จำเป็น แต่รัฐบาลกลับไปกู้เงินมาแจกมาอุดหนุน​รายจ่ายการบริโภค​ประชาชน​ ให้มีวันหยุดมากๆ​ เพื่อไปเที่ยว เฉกเช่น​ พ่อแม่ไปกู้เงินมาให้ลูกๆ​ ไปกินไปใช้​ ไม่ช่วยกันไปทำงานหารายได้​และเก็บออมเงิน​ทอง ทำเช่นนี้​ ครอบครัวจะมีแต่ล่มสลาย​เป็นหนี้เป็นสินล้นพ้นตัว วิธีคิดเช่นนี้ผิดมากจริงๆ​ ศ.สุชาติ​ กล่าว