สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซีรายงานว่า ท่ามกลางวิกฤตพลังงานที่ดันราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในตลาดให้พุ่งสูงขึ้น ซึ่งหลักใหญ่เป็นผลพวงจากสงครามยูเครนนั้น มีท่าทีจากนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ออกมาตำหนิความละโมบโลภมากในการทำผลกำไรจนผิดปกติของบริษัทพลังงานและผู้สนับสนุนทางการเงินต่อบริษัทเหล่านั้น และเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกเก็บภาษีกำไรส่วนเกินเหล่านี้ เพื่อนำมาสนับสนุนกลุ่มคนเปราะบางที่สุดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักอย่าง

“มันผิดศีลธรรมสำหรับบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่จะทำกำไรเป็นประวัติการณ์จากวิกฤตพลังงานครั้งนี้บนหลังของคนยากจนที่สุด ด้วยความเสียหายมหาศาลต่อสภาพอากาศ และผมขอเรียกร้องให้ทุกรัฐบาลเก็บภาษีกำไรส่วนเกินเหล่านี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการสนับสนุนกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุดให้ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้” เลขาธิการยูเอ็นกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผลกำไรในไตรมาสล่าสุดของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่โลกอย่างบริษัท เอ็กซ์ซอนโมบิล คอร์ป. และบริษัท เชฟรอน คอร์ป. สองบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา บริษัท เชลล์ ของอังกฤษ และบริษัท โททาลเอนเนอร์ยี่ส์ ของฝรั่งเศส รวมกันนั้นมีมูลค่าถึงเกือบ 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน