แคร์ที่ไหน! เพโลซีย้ำจีนห้ามใครไปไต้หวันไม่ได้ จี7 ผสมโรงบอกแค่เรื่องปกติ

เพโลซีย้ำจีนห้ามใครไปไต้หวันไม่ได้ จี7 ผสมโรงบอกแค่เรื่องปกติทางการปักกิ่งเกรี้ยวกราด ออกบทลงโทษ ‘องค์กร’ เกี่ยวพัน ‘เอกราชไต้หวัน’

 

วันที่ 3 สิงหาคม 2565 นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ออกถ้อยแถลงหลังการเดินทางเยือนไต้หวันโดยระบุว่า จีนไม่สามารถที่จะสกัดกั้นผู้นำโลกหรือใครก็ตามที่จะเดินทางไปเยือนไต้หวัน เพื่อแสดงความเคารพต่อระบอบประชาธิปไตยที่เฟื่องฟู และเน้นย้ำถึงความสำเร็จอันมากมายพร้อมกับยืนยันความมุ่งมั่นของตนเองที่จะร่วมมือกับไต้หวันต่อไป

คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่จีนได้ประกาศการตอบโต้ด้วยการซ้อมรบทางทหาร ที่จีนระบุว่าเป็นเรื่องจำเป็นและมีความชอบธรรมเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ โดยจีนระบุว่าจะใช้กระสุนจริงยิงจากระยะไกล และได้ประกาศเตือนชาติต่างๆ ให้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางในช่องแคบไต้หวันด้วย

ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันกำลังเผชิญกับภัยคุกคามทางทหารที่ถูกจงใจทำให้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ทางการไต้หวันได้ขอให้เรือต่างๆ หาเส้นทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการฝึกซ้อมของจีน และกำลังเจรจากับญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อหาทางเลือกของเส้นทางการบินด้วย

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศจี 7 ซึ่งประกอบด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า การเพิ่มระดับการซ้อมรบของจีนอาจทำให้เกิดความไม่มั่นคงขึ้นในภูมิภาคนี้

“ไม่มีเหตุผลที่จะใช้การเดินทางไปเยือนเป็นข้ออ้างสำหรับกิจกรรมทางทหารเชิงรุกในช่องแคบไต้หวัน เพราะถือเป็นเรื่องปกติและเป็นกิจวัตรสำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากประเทศของพวกเราที่จะเดินทางไปยังต่างประเทศ”แถลงการณ์ของจี 7 ระบุ

นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวหาสหรัฐว่า ได้ละเมิดอธิปไตยของจีนภายใต้หน้ากากแห่งประชาธิปไตย พร้อมย้ำว่าผู้ที่เล่นกับไฟจะไม่มีจุดจบที่ดี และผู้ที่รุกรานจีนจะต้องถูกลงโทษ

ขณะที่ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หม่า เสี่ยวกวง โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งคณะรัฐมนตรีจีน ประกาศบทลงโทษกลุ่มองค์กรที่เกี่ยวพันกับการมุ่งแสวงหา “เอกราชไต้หวัน”

“มูลนิธิประชาธิปไตยไต้หวัน” (Taiwan Foundation for Democracy) และ “กองทุนความร่วมมือและการพัฒนาระหว่างประเทศ” (International Cooperation and Development Fund) ดำเนินกิจกรรมแบ่งแยกดินแดน “เอกราชไต้หวัน” บนเวทีระหว่างประเทศ และมุ่งเอาใจกลุ่มต่อต้านจีน ภายใต้หน้ากาก “ประชาธิปไตย” และ “ความร่วมมือและการพัฒนา”

นอกจากนั้นกลุ่มองค์กรข้างต้นยังโจมตีและใส่ร้ายป้ายสีแผ่นดินใหญ่ ใช้เงินและกลวิธีการอื่นๆ เป็นสิ่งหลอกล่อใจเพื่อขยับขยายสิ่งที่เรียกว่า “สถานะระหว่างประเทศ” ของไต้หวัน และพยายามบ่อนทำลายการสนับสนุนหลักการจีนเดียวบนเวทีระหว่างประเทศอีกด้วย

แผ่นดินใหญ่จึงมีมติบังคับใช้มาตรการลงโทษกลุ่มมูลนิธิดังกล่าว โดยห้ามการดำเนินความร่วมมือกับองค์กร ผู้ประกอบการ หรือบุคคลบนแผ่นดินใหญ่ ขณะเดียวกันแผ่นดินใหญ่ยังจะลงโทษองค์กร ผู้ประกอบการ หรือบุคคล ที่เสนอเงินทุนหรือบริการแก่กลุ่มมูลนิธิดังกล่าว รวมถึงจะบังคับใช้มาตรการจำเป็นอย่างสอดคล้องกับกฎหมาย

หม่าระบุว่า แผ่นดินใหญ่ยังห้ามองค์กร ผู้ประกอบการ หรือบุคคลบนแผ่นดินใหญ่ ดำเนินธุรกรรมหรือความร่วมมือกับสปีดเทค เอ็นเนอร์จี (Speedtech Energy) ไฮเว็บ เทคโนโลยี (Hyweb Technology) สกายลา (Skyla) สกายอายส์ จีพีเอส เทคโนโลยี (SkyEyes GPS Technology) และผู้ประกอบการอื่นๆ ที่บริจาคเงินแก่กลุ่มมูลนิธิดังกล่าว รวมถึงห้ามหัวหน้าของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเดินทางสู่แผ่นดินใหญ่ด้วย