‘พีระพันธุ์’ เป็นแม่ทัพใหญ่ รทสช.ลุยเลือกตั้งครั้งหน้า โวจะชนะให้ได้มากที่สุด

‘พีระพันธุ์’ เป็นแม่ทัพใหญ่ รทสช.ลุยเลือกตั้งครั้งหน้า โวจะชนะให้ได้มากที่สุด

 

วันที่ 3 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สโมสรราชพฤกษ์ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าววิสัยทัศน์ภายหลังได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคตอนหนึ่งว่า ตนและกรรมการบริหารพรรคทุกคนผ่านงานการเมืองมานาน มีความคิดทางการเมืองว่าต้องการทำพรรคการเมืองตามที่ประชาชนอยากให้มีอยากให้เป็น ซึ่งเราจะทำพรรค รทสช.ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ให้ฝันของประชาชนเป็นจริง เราจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง

ยืนยันว่าจะใช้ประสบการณ์ทางการเมืองทำงานการเมืองให้ชาติและประชาชน ไม่ได้เข้ามาเล่นเกมการเมือง จะไม่เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้เพื่อแสวงหาสถานะ อำนาจบารมีทางการเมือง เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ แต่จะอาศัยอำนาจทางการเมืองตรงนี้เพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนในทุกรูปแบบ เราจะไม่ทะเลาะเพื่อแย่งตำแหน่ง แต่จะทะเลาะกับความเหลื่อมล้ำของสังคม จะทำสังคมให้เกิดความเท่าเทียม เราจะทะเลาะกับสิ่งที่ทำให้ประชาชนขาดโอกาสในการดำรงชีวิต และทำมาหากินได้อย่างเท่าเทียมเสมอภาค กิจการขนาดเล็ก ชาวบ้าน ชาวนา เกษตรกร ชาวประมง จะต้องมีโอกาสเข้าถึงเงินทุน ได้รับความช่วยเหลือไม่ต่างจากกิจการใหญ่โต ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติจะทำให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้ รวมทั้งโอกาสเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนก็เช่นกัน

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า เดิมตนเป็นผู้พิพากษา เมื่อ 36 ปีก่อนได้เริ่มทำงาน แล้วได้เห็นคนเป็นแม่ที่ยากจนต้องติดคุกเพราะไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกินจึงรู้สึกว่านี่คือความเป็นธรรมของสังคมหรือไม่ ชาวนาถูกยึดรถอีแต๋นเพียงเพราะอยากประหยัดค่าใช้จ่ายจึงเข้าป่าไปหาฟืน เมื่อถูกยึดจึงรู้สึกเทียบกับรถขนสินค้าของบริษัทใหญ่ๆ กลับไม่เคยถูกยึดเลยแม้แต่คันเดียว ซึ่งหากตนไม่ได้ใช้อำนาจของความเป็นผู้พิพากษาช่วยไว้ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงทำให้รู้สึกว่าอะไรคือความเป็นธรรมในสังคม และทำให้ต้องทิ้งตำแหน่งผู้พิพากษามาอยู่ในแวดวงการเมือง โดยไม่ได้คิดมาเพราะอยากเป็นใหญ่ทางการเมืองหรือเป็นผู้มีบารมีทางการเมือง แต่ตนอยากมีอำนาจทางการเมืองเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตนตั้งใจมาทำงานการเมืองไม่ได้มาเล่นการเมือง ต้องการทำงานให้ประชาชนอย่างแท้จริง เดินไหว้ประชาชนมากว่า 30 ปี เท่าที่อยู่บนถนนการเมือง ซึ่งถือเป็นความสุขของชีวิตตลอด 30 ปีที่ผ่านมา มีแต่ความอิ่มใจที่ได้ช่วยประชาชนเป็นจำนวนมาก

นายพีระพันธุ์กล่าวอีกว่า เรามาจากหลายที่แต่เราเป็นพวกเดียวกัน เราคุยกันว่าอยากสร้างพรรคการเมือง สร้างนักการเมืองเพื่อให้เป็นนักการเมืองของประชาชน และทำงานให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขกฎหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชนนั้นจะทำคนเดียวไม่ได้ แต่ต้องเป็นพรรคการเมือง จึงมีอุดมการณ์เดียวกันว่าจะสร้างพรรค รทสช.ให้เป็นพรรคการเมืองที่จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ขอให้สมาชิกทุกคนมั่นใจว่าเราจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ขอให้มั่นใจว่าตนและกรรมการบริหารพรรคทุกคนจะสร้างพรรค รทสช.ให้เป็นพรรคการเมืองหลักของประเทศไทย จะนำพรรค รทสช.เข้าสู่สนามการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยความมั่นใจ มั่นคง เด็ดเดี่ยว เราจะพยายามทำพรรค รทสช.เป็นพรรคที่ประชาชนต้องหันกลับมามองว่านี่คือพรรคที่ประชาชนอยากให้มี พรรคที่อยากให้เป็น และพรรคที่จะเลือกตลอดไป สิ่งเหล่านี้คือความตั้งใจของพวกเราและที่พูดนี้ไม่ได้พูดเพื่อให้ได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ เพราะไม่ต้องการเป็นผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมือง เพราะผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองที่แท้จริงคือประชาชน

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ต้องการอำนาจทางการเมืองเพื่อช่วยประชาชนแก้ปัญหา เราต้องการได้อำนาจทางการเมืองไม่ใช่เพื่ออยากไปเป็นรัฐมนตรี แต่พวกเราอยากขอโอกาสประชาชนเพื่อทำงานให้ประชาชน ต้องการลดความเหลื่อมล้ำ ต้องการเพิ่มโอกาสให้กับลูกหลาน ต้องการให้เด็กทั่วประเทศไม่ว่าอยู่ที่ไหนมีอนาคตที่เสมอภาคและเท่าเทียมกัน และนี่เป็นนโยบายหนึ่งที่เราจะทำให้เกิดขึ้นให้ได้ ขอให้สมาชิกทุกคนมาช่วยกันรวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นรวมไทยสร้างชาติเพื่อทำให้สังคมไทยน่าอยู่ มีความสุข เท่าเทียมกัน มีโอกาสเสมอภาค มีความสามัคคีปรองดอง ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่หลายคนอิจฉา เราต้องช่วยกันค้ำจุนปกป้องเสาหลัก 3 ประการของประเทศไทย เป็นที่ภาคภูมิใจของทุกคน ภูมิใจในความเป็นชาติความเป็นคนไทย จึงขอเชิญชวนมาร่วมสร้างชาติไทยให้เป็นที่อิจฉาของคนทั่วโลก รทสช.จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยความมั่นใจ มั่นคง และจะชนะให้ได้มากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายก่อนปิดประชุม นายพีระพันธุ์ได้เชิญชวนสมาชิกพรรคร่วมกันร้องเพลงประจำพรรค รทสช. อย่างไรก็ตาม การประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติในวันนี้ได้มีบรรดานักการเมือง อดีต ส.ส. และผู้นำท้องถิ่น ผู้บริหารองค์กรท้องถิ่นเข้าร่วมแสดงความยินดีอย่างคึกคัก และเป็นที่น่าสังเกตว่าสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรค รทสช. เป็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เช่น นายเจือ ราชสีห์ อดีต ส.ส.สงขลา นายโกวิทย์ ธารณา อดีต ส.ส.กทม. นายสามารถ มะลูลีม นายพงศ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี และ น.ส.รัดเกล้า สุวรรณคีรี บุตรสาวนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และยังมีกลุ่มเพื่อน ส.ส. ลูกช้าง ลูกหมี นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ และนายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ซึ่งเป็นกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และชุมพร ทั้งนี้ มีรายงานว่าพรรควางเป้าหมายส่งผู้สมัครชิง ส.ส.เขต ในนามพรรค รทสช.