‘ไทยสร้างไทย’ จับตาปม Zipmex จี้ ก.ล.ต.เร่งสางอย่างเป็นธรรม อย่าหวั่นอำนาจมืด

‘ไทยสร้างไทย’ จับตาปม Zipmex จี้ ก.ล.ต.เร่งดำเนินการอย่างเป็นธรรม อย่าเกรงกลัวอำนาจมืด เร่งคืนความเชื่อมั่นตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

 

วันที่ 1 ส.ค. 2565 เมื่อเวลา 09.30 น. ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ดิจิทัลเพื่อสร้างพลังของประชาชน พรรคไทยสร้างไทย ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการนัดรวมตัวกันของผู้ได้รับความเสียหายจาก Zipmex Thailand ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดย​​ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้กับคนตัวเล็กเพื่อยื่นหนังสือให้กับ ก.ล.ต. และเรียกร้องให้ ก.ล.ต.หาข้อสรุปและทางออก พร้อมชี้แจงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวกับกลุ่มผู้เสียหาย โดยกลุ่มผู้เสียหายเรียกร้องให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบประเด็นสำคัญ ๆ ได้แก่

1 . ให้ตรวจสอบ Zipmex ถึงสาเหตุที่ยังเชิญชวนและยินยอมเงื่อนไขใน ZipUp+ ที่นำเงินไปลงทุนใน Celsius และ Babel ทั้งที่รู้อยู่ว่า Celsius และ Babel ได้ประกาศระงับการถอนเงินตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

2. เหตุใด ก.ล.ต.ถึงยินยอมให้ ZipUp+ อยู่ในแพลตฟอร์ม Zipmex Thailand ที่ ก.ล.ต.รับรอง

3. เอกสารยินยอมเงื่อนไขใน ZipUp+ มีความโปร่งใสและทำตามเกณฑ์ของ ก.ล.ต.หรือไม่ และ

4. ให้ตรวจสอบสินทรัพย์และเส้นทางการเงินของ Z Wallet ว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่เครือข่ายของ Zipmex มีหลายตระกูลดังเข้ามาเกี่ยวข้องจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ก.ล.ต.ปล่อยปละละเลยและไม่แก้ไขปัญหาให้ทันท่วงที หรือไม่

ดร.ธรรม์ธีร์ กล่าวว่า กรณีของ Zipmex ถือเป็นกรณีที่ทำให้เกิดความเสียหายและกระทบต่อความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยในวงกว้าง โดยเบื้องต้นคาดว่ามีมูลค่าความเสียหายรวมหลายพันล้านบาท ซึ่งนักลงทุนกลุ่มที่สูญเสียนี้ มีความรู้สึกว่า ก.ล.ต.ทำหน้าที่ไม่เป็นไปตามที่ควร เพราะมีหน้าที่กำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรง ต้องป้องกัน แก้ไข และร่วมเยียวยา ประกอบกับการที่มีข้อมูลออกมาว่ากลุ่ม Zipmex มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลดังและมีอำนาจรัฐในขณะนี้ ซึ่งหน่วยงานรัฐจะถูกสังคมจับตามองเป็นพิเศษถึงมาตรฐานและความกระตือรือร้นในการดำเนินการต่าง ๆ ในกรณีที่มีความเกี่ยวพันกับผู้มีอำนาจ

“วันนี้ ก.ล.ต.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องเร่งดำเนินการให้เป็นที่ประจักษ์ถึงความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาและความยุติธรรมให้กับทั้งนักลงทุนและบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลด้วยกัน โดยไม่เกรงกลัวต่อผู้มีอำนาจในขณะนี้ เพราะสินทรัพย์ดิจิทัลถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ซึ่งต้องให้มีการเติบโตอย่างมั่นคง และไม่เสียโอกาสของประเทศไทยในเวทีเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ซึ่งจะนำเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศอีกมหาศาลในอนาคต” ดร.ธรรม์ธีร์ กล่าว

ทั้งนี้ทางศูนย์ดิจิทัลฯ พรรคไทยสร้างไทย จะจัด Focus Group เพื่อระดมสมองจากทั้งผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและนักลงทุน เพื่อทบทวนและประเมินกระบวนการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล และเสนอแนวทางสำหรับเร่งรัดการแก้ไขปัญหาในกรณีนี้ และแนวทางป้องกันความเสียหายและสร้างการเติบโตของวงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทยให้มั่นคงต่อไป