ยูเครนประกาศแผนอพยพปชช.ออกจากแคว้นโดเนสกต์ หลังสู้รบรัสเซียชนิดดุเดือด

วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 รอยเตอร์สรายงานเมื่อคืนนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครนได้ออกแถลงผ่านโทรทัศน์กลางดึกว่า รัฐบาลยูเครนกำลังสั่งดำเนินขั้นตอนการอพยพประชาชนออกจากแคว้นโดเนสกต์ หลังเกิดฉากการสู้รบกับรัสเซียในแนวรบตะวันออกที่ทวีความดุเดือดรุนแรงมากขึ้น

โดยเซเลนสกี้ กล่าวว่า ยังมีประชาชนอีกหลายแสนคนยังคงติดอยู่ในเขตการสู้รบในพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคว้น เช่นเดียวกับแคว้นลูฮานสก์ จึงจำเป็นต้องอพยพออกไป

“ยิ่งมีคนเดินทางออกจากแคว้นโดเนสตก์ตอนนี้มากเท่าไหร่ ยิ่งมีคนที่รัสเซียเข้ามาหมายสังหารได้น้อยลง”  เซเลนสกี้กล่าวและเสริมว่า ประชาชนที่ออกจากพื้นที่จะได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ

อีกด้านสื่อท้องถิ่นของยูเครน ยกคำกล่าวของอิริน่า เวเรนชุค รองนายกรัฐมนตรียูเครนที่ระบุว่า การอพยพจำเป็นต้องดำเนินการก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว เพราะคลังเก็บก๊าซธรรมชาติถูกทำลายแล้ว

เซเลนสกี้กล่าวด้วยว่า “ยังมีหลายคนปฏิเสธที่จะหนีแต่เรื่องนี้จำเป็นต้องทำ หากคุณมีโอกาส ได้โปรดบอกกับคนที่ยังอยู่ในเขตสู้รบในดอนบาส โปรดโน้มน้าวพวกเขาว่าจำต้องหนี”

คำกล่าวของเซเลนสกี้ต่อประชาชนให้อพยพนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการกล่าวถึง ก่อนหน้านี้ จอห์น เฮิบส์ อดีตทูตสหรัฐประจำยูเครน กล่าวว่า เป็นไปได้ว่าจะเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือดมากกว่าเชื้อเพลิงขาดแคลน

“ผมไม่ทราบหนักว่าเซเลนสกี้กล่าวถึงอะไร แต่สิ่งที่ผมรู้นั้นคือจะเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือดในโดเนสกต์ รัสเซียได้ยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของลูฮานสก์ไปหลายสัปดาห์ก่อน ผมคาดว่าจะเกิดการสู้รบดุเดือดในโดเนสกต์” เฮิบส์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เฮิบส์ กล่าวว่า เขาไม่คาดว่ารัสเซียจะยึดพื้นที่แคว้นโดเนสตก์ที่เหลือ เพราะนั้นจะทำให้ต้องมีสายส่งกำลังบำรุงที่ยาวมากและกองทัพยูเครนใช้ปืนใหญ่กับระบบจรวดระยะไกลขั้นสูงที่สหรัฐฯและหลายชาติให้มาด้วย

สถานการณ์สู้รบในช่วงเช้าของวานนี้ กองทัพยูเครนกล่าวว่า มีทหารรัสเซียถูกสังหารกว่าร้อยรายและรถถังถูกทำลายหลายคันในสู้รบทางใต้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมถึงพื้นที่แคว้นเคอร์ซันซึ่งยูเครนทำการรุกโต้กลับใส่พื้นที่ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงสายเสบียงสำคัญของรัสเซีย โดยเฉพาะหลังจากที่ทางรถไฟเหนือแม่น้ำดนิโป ที่มุ่งหน้าสู่เมืองเคอร์ซันถูกตัดขาด ซึ่งกองทัพยูเครนหมายโดนเดี่ยวกองทัพรัสเซียทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำออกจากการส่งกำลังบำรุงจากไครเมียและทางตะวันออก

ส่วนเมืองบาคมุท ซึ่งรัสเซียอ้างเป็นเป้าหมายหลักในแคว้นโดเนสกต์นั้น กองทัพยูเครนกล่าวว่า กองทัพรัสเซียสำเร็จเพียงบางส่วนในการเข้าควบคุมพื้นที่ตั้งในเซมีฮิเรีย จากการบุกโถมของรัสเซีย 3 ทิศทาง

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมและหน่วยข่าวกรองอังกฤษ ซึ่งเฝ้าติดตามการสู้รบในยูเครนมาตลอด ฉายภาพว่า กองทัพรัสเซียยังคงสู้เพื่อรักษาโมเมนตัมตัวเองไว้ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมอังกฤษทวิตข้อความระบุว่า รัฐบาลรัสเซียกำลังสิิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ เสียทหารไปกว่าหมื่นนาย แม้แต่ ริชาร์ด มัวร์ ผู้อำนวยหน่วยเอ็มไอซิกส์ หน่วยข่าวกรองกลางของอังกฤษ ก็กล่าวเสริมว่า รัสเซียกำลังหมดพลังแล้ว