‘ชัชชาติ’ ร่วมปัจฉิมนิเทศ ‘สวนกุหลาบ’ ชี้โลกเปลี่ยนเร็ว ต้องสร้างบาลานซ์ประสบการณ์ชีวิต-ตำรา (ภาพชุด)

‘ชัชชาติ’ ร่วมปัจฉิมนิเทศ ‘สวนกุหลาบ’ ชี้โลกเปลี่ยนเร็ว ต้องสร้างบาลานซ์ประสบการณ์ชีวิต-ตำรา (ภาพชุด)

 

วันที่ 27 กรกฎาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเพื่อนนักวิ่ง ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก ขณะวิ่งออกกำลังกายเมื่อเวลาราว 05.20 น. จากบริเวณหน้าศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า มุ่งสู่ถนนราชดำเนิน ถนนดินสอ สะพานวันชาติ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพระรามที่ 8 จากฝั่งพระนคร สู่ฝั่งธนบุรี ลัดเลาะเข้าซอยวัดดาวดึงษาราม

จากนั้นขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า แต่ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางกะทันหันบริเวณกลางสะพาน โดยย้อนลงกลับไปมุ่งหน้าสะพานอรุณอมรินทร์ ข้ามคลองบางกอกน้อย ผ่านกองเรือเล็ก รพ.ศิริราช ขึ้นสกายวอล์กข้ามแยกผ่านวัดระฆัง กองทัพเรือ แล้วเข้าสู่วัดอรุณราชวราราม เยี่ยมชมพระปรางค์ และประติมากรรมยักษ์วัดแจ้ง

ต่อมา มุ่งหน้าข้ามคลองบางกอกใหญ่ ผ่านชุมชนเก่าแก่ที่มีวัฒนธรรมหลากหลายรอบวัดกัลยาณมิตร แล้วขึ้นสะพานพระพุทธยอดฟ้า ถึงโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเมื่อเวลาราว 08.00 น. ด้วยระยะทางราว 14 กิโลเมตร

นายชัชชาติกล่าวว่า นี่คือจุดหมายในการวิ่งซิตี้รันในวันนี้ คือการปัจฉิมนิเทศนักเรียนที่จบการศึกษาราว 1,500 คน

ระหว่างนั้นคณาจารย์เข้าต้อนรับ และเชิญไปยังจุดปฐมนิเทศบริเวณสนามกีฬาเปิดโล่ง นายชัชชาติกระโดดอย่างคึกคัก นักเรียนตะโกนรับด้วยความยินดี อาจารย์กล่าวแนะนำว่า นี่คือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากการเลือกตั้งของประชาชน” เกือบ 1.4 ล้านเสียง นักเรียนปรบมือกึกก้อง

จากนั้นนายชัชชาติกล่าวผ่านโทรโข่งว่า ต้องสร้างความสมดุลระหว่างเรียนกับเล่น ต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตนเองไปด้วย มีวินัย อยากรู้อยากเห็น สร้างความสมดุลระหว่างประสบการณ์ชีวิตกับตำราเรียน เพราะสุดท้ายแล้วอนาคตโลกเปลี่ยนเร็ว

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน พี่ๆ วิ่งมาจากเสาชิงช้า ออกกำลังกาย เสร็จแล้วต่างคนแยกย้ายกันทำงาน ดูแลครอบครัว ดูแลสุขภาพ ดูแลเพื่อน ขอให้ทุกคนโชคดี” นายชัชชาติกล่าว

จากนั้นคณาจารย์พานายชัชชาติเยี่ยมชมจุดต่างๆ ภายในโรงเรียน โดยมีนักเรียนขอถ่ายภาพเซลฟี่ตลอดทาง

จากนั้นเมื่อเวลา 08.40 น.โดยประมาณ นายชัชชาติกล่าวปัจฉิมนิเทศอย่างเป็นทางการภายในหอประชุม

นายชัชชาติ กล่าวในหัวข้อ “คนรุ่นใหม่กับความรับผิดชอบต่อสังคม” โดยได้บรรยายถึงเคล็ดลับในชีวิต 1.ทำอย่างไรให้โชคดี การเตรียมพร้อม โอกาส ความอยากรู้อยากเห็น ระเบียบวินัย (Growth Mindset) 2.ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ การสื่อสารให้เป็น สร้างและรักษาความไว้วางใจ 3.ทำอย่างไรให้มีความสุข ต้องเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น เริ่มจากการมีวินัยในชีวิต ดังคำกล่าวของ อีไลอิค คิปโชเก้ นักวิ่งมาราธอนชาวเคนย่า ที่กล่าวว่า “คนที่มีวินัยในตัวเอง เท่านั้นถึงจะมีอิสระในชีวิต” เราควรมีวินัยในตนเอง จัดสรรเวลาในชีวิตให้ดี

ต่อมาเรื่อง Mindset จากหนังสือของ Carol S. Dweck ได้กล่าวไว้ว่า Mindset (กรอบความคิด) ประกอบด้วย Fixed Mindset และ Growth Mindset โดย Fixed Mindset คือความเชื่อว่าคนเราเก่งมาแต่กำเนิด คนกลุ่มนี้เชื่อว่าความฉลาดเป็นเรื่องพรสวรรค์ จึงไม่กล้าทำงานที่มีความท้าทาย เพราะกลัวเจอความล้มเหลว ขณะที่ Growth Mindset จะไม่กลัวความผิดพลาด คนกลุ่มนี้พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็น เพราะเชื่อว่าทุกอย่างความสามารถปรับปรุงและพัฒนาได้ ดังนั้นเราควรที่จะมี Growth Mindset ซึ่งจะมีความสำคัญกับความสำเร็จในชีวิต เมื่อประกอบกับโอกาสแล้วจะกลายเป็นความโชคดีของเรา

จากนั้นบรรยายเรื่องโถแห่งชีวิต (jar of life) ชีวิตของคนเราเหมือนโถแก้วว่างเปล่า 1 ใบ ที่จะต้องใส่สิ่งของ 3 สิ่ง ได้แก่ หินก้อนใหญ่ แทนสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต กรวด แทนสิ่งที่สำคัญรองลงมา และทราย แทนสิ่งที่ไม่สำคัญในชีวิต ถ้าเราใส่ทรายลงไปในโถแก้วก่อน แล้วค่อยใส่กรวดและหิน เราอาจไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับหิน แต่ถ้าเราใส่หินก่อน ตามด้วยกรวดและทราย กรวดจะแทรกตามช่องว่างของหินและทรายแทรกลงในช่องว่างที่เหลือ ดังนั้นเราต้องกำหนดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิต และจัดลำดับความสำคัญก่อนหรือหลังให้ดี

“เราควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าเอาตนเองเป็นที่ตั้ง ความสุขจะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีความเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ในช่วงท้ายก่อนจบการบรรยาย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนนักเรียนได้ตั้งคำถามต่างๆ “ปัญหาในกรุงเทพมหานครมีหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการแก้ไข เราควรจะเริ่มแก้ไขจากปัญหาอะไรก่อน” หนึ่งในคำถามจากตัวแทนนักเรียน

“ทุกปัญหามีความสำคัญเท่ากันหมด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขยะ ปัญหารถติด เราจะแก้ปัญหาในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก่อนไม่ได้ ทุกปัญหาต้องเดินหน้าแก้ไขไปพร้อมกัน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ตอบคำถามดังกล่าว