สหรัฐฯลั่นไม่มีทำธุรกิจกับรัฐบาลทหารพม่า หลังสั่งประหาร 4 นักเคลื่อนไหวปชต. ยูเอ็นร่วมประณาม

วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า เน็ต ไพรด์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในแลถงสรุปข่าวว่า สหรัฐฯ จะไม่สามารถทำธุรกิจใดตามปกติกับรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าแล้ว หลังจากการสั่งประหารชีวิต 4 นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวานนี้ และกล่าวเสริมว่าทางเลือกทั้งหมดอยู่บนโต๊ะ รวมถึงจะพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อลงโทษรัฐบาลทหาร

ไพรด์ได้เรียกร้องให้นานาประเทศ แบนการขายยุทโธปกรณ์กับพม่า และละเว้นจากการกระทำใด ๆ ที่จะให้ความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศแก่รัฐบาลทหารพม่า

เมื่อถามถึงรัฐบาลสหรัฐฯกำลังพิจารณาคว่ำบาตรอุตสาหกรรมก๊าซของพม่า ไพรด์ กล่าวว่า กำลังหารือต่อมาตรการเพิ่มเติม ทุกทางเลือกอยู่บนโต๊ะ

“ด้วยความโหดร้ายอันน่าสยดสยองที่รัฐบาลทหารได้ดำเนินการ สหรัฐฯไม่สามารถทำธุรกิจได้ตามปกติกับระบอบเผด็จการแล้ว” ไพรซ์กล่าว

นอกจากนี้ ไพรด์ กล่าวว่า ไม่มีประเทศใดมีศักยภาพที่จะโน้มน้าววิถีวิถีของเมียนมาร์ได้มากไปกว่าจีนแล้วพร้อมเรียกร้องให้กลุ่มประเทศอาเซียน รักษาแบบอย่างของการห้ามผู้แทนรัฐบาลทหารเข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาค

ขณะที่ อันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น ได้แถลงประณามต่อการสั่งประหารชีวิต 4 นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยพม่า โดยฟาร์ฮาน ฮัค โฆษกยูเอ็น กล่าวว่า  “เลขาธิการฯ ย้ำคำร้องให้ปล่อยตัวนักโทษที่ถูกควบคุมตัวโดยพลการทันที รวมถึงประธานาธิบดีวิน มี้นต์ และที่ปรึกษาแห่งรัฐอองซานซูจี และเสริมว่า ขอคัดค้านการประหารชีวิตในทุกกรณี

ท่าทีของสหรัฐฯและยูเอ็นเกิดขึ้นหลังจากที่ ทางการพม่าได้ประหารชีวิต 4 นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย โดยเฉพาะ 2 ใน 4 ซึ่งเป็นที่รู้จักคือ นายเพียว เซยา ตอร์ (Phyo Zeya Thaw) อดีตสมาชิกของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) และผู้บุกเบิกเพลงฮิปฮอปในพม่า และจ่อ มิน ยู (Kyaw Min Yu) หรือที่รู้จักในชื่อ โก จิมมี่ (Ko Jimmy) นักเคลื่อนไหวยุคเหตุการณ์ 8888 ด้วยข้อหาในกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม ทางการพม่าปฏิเสธส่งมอบร่างให้กับญาติโดยไม่มีเหตุผลรองรับ