อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ “โทนี แบลร์” ชี้ สงครามยูเครนสะท้อนอิทธิพลตะวันตกที่กำลังสิ้นสุด ขณะที่ จีน-รัสเซีย ขึ้นสู่สถานะมหาอำนาจ 

 

วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 รอยเตอร์รายงานว่า “โทนี แบลร์” อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า สงครามยูเครนแสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของตะวันตกกำลังจะสิ้นสุดลง ในขณะที่จีนขึ้นสู่สถานะมหาอำนาจร่วมกับรัสเซีย นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายศตวรรษ

แบลร์กล่าวว่า โลกกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ ที่เทียบได้กับการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แต่คราวนี้เห็นได้ชัดว่าชาติตะวันตกไม่ใช่ฝั่งที่มีอิทธิพลเหนือกว่า

“เรากำลังถึงจุดสิ้นสุดของการมีอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจของตะวันตก” แบลร์กล่าวในการบรรยายเรื่อง “After Ukraine, What Lessons Now for Western Leadership?” ที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ

“โลกจะมีอย่างน้อยสองขั้ว และอาจมีหลายขั้ว” แบลร์กล่าวและว่า “การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์การเมืองครั้งใหญ่ที่สุดของศตวรรษนี้จะมาจากจีน ไม่ใช่รัสเซีย”

การรุกรานยูเครนของรัสเซียได้คร่าชีวิตผู้คนหลายพันคน และก่อให้เกิดวิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก นับตั้งแต่วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบาในปี 2505 ซึ่งครั้งนี้ผู้คนจำนวนมากเกรงว่าโลกจะเผชิญสงครามนิวเคลียร์

“วลาดีมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า ชาติตะวันตกประกาศสงครามเศรษฐกิจ โดยพยายามโดดเดี่ยวเศรษฐกิจของรัสเซียด้วยมาตรการคว่ำบาตรต่าง ๆ และรัสเซียจะหันไปหาชาติมหาอำนาจ เช่น จีน และอินเดีย

แบลร์กล่าวด้วยว่า “สงครามในยูเครนได้แสดงให้เห็นว่าตะวันตกไม่สามารถเชื่อใจจีน ว่าจะแสดงท่าทีในลักษณะที่เรามองว่ามีเหตุผล”

“สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน ยังคงสนับสนุนปูติน และวิจารณ์มาตรการคว่ำบาตรว่าเป็นการละเมิดของชาติตะวันตก ขณะที่ปูตินเดินหน้าสิ่งที่เขาเรียกว่า “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” กับจีน

เมื่อปี 2522 จีนมีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าของอิตาลี แต่หลังจากจีนเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ และเริ่มปฏิรูปตลาดต่าง ๆ จีนก็ได้กลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

เศรษฐกิจของจีน คาดว่าจะแซงหน้าสหรัฐฯได้ภายใน 1 ทศวรรษ และขณะนี้จีนได้ขึ้นแท่นผู้นำเทคโนโลยีบางอย่างในศตวรรษที่ 21 แล้ว เช่น ปัญญาประดิษฐ์ เวชศาสตร์ฟื้นฟู และโพลิเมอร์นำไฟฟ้า

“ตำแหน่งของจีนในฐานะมหาอำนาจนั้นเป็นไปโดยธรรมชาติและสมเหตุสมผล ไม่ใช่อย่างสหภาพโซเวียต” แบลร์ กล่าว

เขายังบอกด้วยว่า ตะวันตกไม่ควรปล่อยให้จีนตามทันในด้านการทหาร

“เราควรเพิ่มการใช้จ่ายและรักษาความเหนือกว่าในด้านการทหาร สหรัฐฯและพันธมิตรควรทำให้ดีมากพอเพื่อรองรับเหตุการณ์หรือความขัดแย้งในทุกพื้นที่”