เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2565 นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกองทัพอากาศตรวจพบอากาศยานของเมียนมา บินล้ำแดนบริเวณ อ.พบพระ จ.ตาก โจมตีกองกำลังชนกลุ่มน้อยบริเวณแนวชายแดน และบินล้ำแดนเข้ามายังพื้นที่ประเทศไทยว่า ตนร่วมกับเพื่อนๆ ภาคประชาสังคมไทย และสมาชิกประเทศต่างๆ ในอาเซียน เรียกร้องต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มานานร่วมปีให้รัฐบาลไทยประกาศพื้นที่ชายแดนเป็น no-fly zone หรือ เขตห้ามบิน เพราะเป็นการคุกคามอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา

ซึ่งกองทัพเมียนมาได้ส่งเครื่องบินรบมาทิ้งระเบิดกองกำลังชาติพันธุ์อยู่บ่อยครั้ง แต่ที่ผ่านมารัฐบาลกลับไม่ทำอะไรเลย ล่าสุด ถึงขนาดที่เครื่องบินรบข้ามแดนมาฝั่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่องและการปล่อยปละ

นายกษิตกล่าวว่า สถานการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น เพราะมีการสู้รบบริเวณชายแดนมานานนับปี และพวกตนก็เรียกร้องมายาวนานให้ประกาศเขตห้ามบิน ขณะที่นายกฯ อ้างความสัมพันธ์อันดีกับพม่า แต่กลับไม่มีการห้ามปรามกัน

“การบอกว่าเครื่องบินเมียนมา แค่มาตีวงและล้ำเข้ามานิดหน่อย พูดเช่นนั้นไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยของประเทศ เป็นหน้าที่ของนายกฯและรมว.กลาโหม จะต้องดำเนินการ ไม่ใช่โอนอ่อนเห็นใจทหารเมียนมาอย่างเดียว แต่ประชาชนที่อยู่บริเวณชายแดนต้องหวาดผวา” นายกษิต กล่าว

ส่วนที่บอกว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทหารเมียนมา จะเอามาอ้างไม่ได้ เพราะความสัมพันธ์ที่ดีก็ไม่ใช่อนุญาตให้เมียนมาละเมิดกฎเกณฑ์ได้ อย่าเอาความสัมพันธ์ที่ดีมาอ้าง ความสัมพันธ์ที่ดี คือ อีกประเทศหนึ่งเคารพอธิปไตยอีกประเทศหนึ่ง ความสัมพันธ์ที่ดีต้องอยู่บนพื้นที่การปฏิบัติที่ดีต่อกัน

อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีมีรถชาวบ้านไทยถูกเครื่องบินรบเมียนมายิง ว่า เป็นความเสียหายที่รัฐบาลไทยต้องเรียกร้องเอาจากทหารเมียนมาให้ได้