อดีตขุนคลัง ชี้ไทยเปิดทางรัฐบาลลาวกู้ยืมเงินเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศ สกัดเงินกีบอ่อนค่า-เฟ้อเกินไป

อดีตขุนคลัง ชี้​ไทยควรให้รัฐบาลลาวกู้ยืมเงินไปเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศ​ เพื่อค้ำประกันไม่ให้​เงินทุนไหลออก​มากไป และไม่ให้เงินกีบ​อ่อนค่าและเฟ้อมากเกินไป​ เพื่อให้เศรษฐกิจ​ลาวมีเสถียรภาพ​ และกลับมาเจริญเติบโต

 

วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ศ​าสตราจารย์​ ดร.สุชาติ​ ​ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ อดีตรัฐมนตรี​ว่าการกระท​รวงการคลัง​ ให้ความเห็นว่า

(1) ไทยควรช่วยเหลือประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว​ (สปป.ลาว)​ ให้มีเสถีรภาพทางเศรษฐกิจ​ โดยให้กู้ยืมเงินเพื่อนำไปเป็นเงินทุน​สำรองระหว่างประเทศของสปป.ลาว​ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินของลาว​ ลดเงินทุนต่างประเทศไหลออก​ และลดการอ่อนค่าของเงินกีบที่มากเกินไป​ ซึ่งทำให้สินค้านำเข้าขาดแคลนและแพงขึ้น​

2.กระผมว่า​ สปป.ลาว​ มีปัญหาไม่มาก​ เพียงหนี้ต่างประเทศต่อ​ GDP​ อาจสูงไป​ และรายได้จากการส่งออกและท่องเที่ยวลดลงไปมาก​ อันเนื่องมาจากปัญหาการระบาดของโรคโควิด​เมื่อ​ 2 ปีที่ผ่านมา

3.สถานการณ์​ทางเศรษฐกิจ​ของสปป.ลาว​ ยังดีกว่าประเทศศรีลังกา​มาก​ สิ่งที่ไทยควรทำ​ตอนนี้ คือให้สปป.ลาว​ ยืมเงินบาทหรือเงินดอลล่า​ร์​ ไปเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศของลาว​ เมื่อสปป.ลาว​ มีเงินสำรองฯ​เพิ่มขึ้นเพียงพอชำระหนี้ระยะสั้น​ ก็จะลดความไม่มั่นใจของนักลงทุน​ทั้งในและต่างประเทศ​ จะทำให้เงิน​กีบกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม​ ไม่อ่อนค่าลงมากเกินไป​ สินค้านำเข้า​ เช่น​ น้ำมัน​ และสินค้า​โภคภัณฑ์​ ก็จะไม่ขาดแคลน​ และราคา
ในรูปเงินกีบ​ ก็จะไม่เพิ่มมากกว่าที่ควร​จะเป็น​ ซึ่งจะช่วยพยุงไม่ให้เกิดเงินกีบเฟ้อมากไป

4.รัฐวิสาหกิจไทยและบริษัทเอกชน​ไทย ควรช่วยเหลือพี่น้องประชาชนลาว​ โดยหากซื้อสินค้าลาว​ เช่น​ ไฟฟ้า​ ก็ควรจ่ายเงินล่วงหน้า​ยาวขึ้น หรือหากขายสินค้​าให้ลาว​ ก็ควรให้เครดิตยาวขึ้น​ และประเทศไทยควรส่งเสริมให้คนไทยไปเที่ยวและซื้อสินค้าลาวมากขึ้น

5.เมื่อสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้​มากขึ้น ระบบเศรษฐกิจ​สปป.ลาว​ ก็จะกลับมามีเสถียรภาพ​ มีสินค้า​และบริการเพียงพอให้ประชาชน​ เงินเฟ้อไม่มากเกินไป​ และเมื่อนักท่องเที่ยวกลับมา​ในปลายปี​ 2565​ นี้ ระบบเศรษฐกิจ​ สปป.ลาว​ ก็จะกลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง​ โดยค่าเงินกีบจะไม่อ่อนลงมากนัก​ มีระดับราคาใหม่​ตามเงินเฟ้อของโลก​ และมีความระมัดระวังในสัดส่วนหนี้ต่อ​ GDP​ มากขึ้น​ ศ.สุชาติ​ กล่าว