ไทยสร้างไทย จี้รัฐลดขั้นตอนยุ่งยาก อำนวยความสะดวก โฟกัสนักท่องเที่ยวอินเดีย ดึงเม็ดเงินพัฒนาประเทศ

“ราม คุรุวาณิชย์” จี้รัฐต้องลดขั้นตอนความยุ่งยากเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว แนะโฟกัสนักท่องเที่ยวอินเดีย ชี้กำลังซื้อสูงกว่าจีนกว่าเท่าตัว เตรียมเปิดนโยบายการท่องเที่ยว หวังดึงเม็ดเงินพัฒนาประเทศ

 

วันที่ 29 มิถุนายน 2565 นายราม คุรุวาณิชย์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าการท่องเที่ยวเป็นจุดเด่นของประเทศไทยที่สามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนมหาวิกฤตโรคระบาดโควิด ไทยให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาท่องเที่ยวในไทยกว่า 11 ล้านคน แต่ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ซึ่งมีประชากรทั้งประเทศใกล้เคียงกับประเทศจีน กลับเข้ามายังประเทศไทยเพียงประมาณ 2 ล้านคนเท่านั้น

ทั้งที่กำลังการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมีสูงกว่านักท่องเที่ยวจีนกว่าเท่าตัวที่ประมาณ 3,500 เหรียญต่อคน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1,600 เหรียญต่อคน ซึ่งหากมองมูลค่ารวมของนักท่องเที่ยวอินเดียที่ไปเที่ยวประเทศต่างๆสูงถึงประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท มากกว่างบประมาณแผ่นดินของไทยเสียอีก ดังนั้นรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวอินเดียให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

“รัฐจำเป็นต้องลดขั้นตอนความยุ่งยาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าที่ผู้ถือหนังสือเดินทางสามารถขอได้ ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองในประเทศ เพื่อการท่องเที่ยวเป็นระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน โดยที่ไม่ต้องทำวีซ่าล่วงหน้า (Visa on Arrival) หรือการทำหนังสือวีซ่าผ่านตามช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้เกิดความสะดวกเพิ่มมากขึ้น”

นายราม กล่าวว่าเมืองไทยมีเสน่ห์ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวอินเดียให้มาเที่ยวได้ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และพัทยา ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยมีนโยบาย และแผนงานในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวอินเดียและทั่วโลก ปัจจุบันมีชาวอินเดียเข้ามาอาศัยและประกอบอาชีพต่างๆหลายแสนคน ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการจูงใจในการให้คนอินเดียใช้จ่ายหมุนเวียนภายในประเทศแทนที่จะส่งเงินกลับบ้านไปยังประเทศของตนเอง ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยจะมีการเปิดตัวนโยบายดึงนักท่องเที่ยวเร็วๆนี้

“อุตสาหกรรมผลิตภาพยนต์อินเดียหลายๆเรื่องใช้งบประมาณกว่า 1 พันล้านบาทถึง 2.6 พันล้านบาทต่อเรื่อง หากรัฐบาลมีการอำนวยความสะดวกให้สามารถใช้สถานที่ในประเทศไทย ทำการถ่ายทำหนังได้ นอกจากจะได้เงินจำนวนมหาศาลแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวของไทยหลายๆแห่งที่มีความสวยงามยังได้รับการประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลดีกับการท่องเที่ยวไทย รวมถึงประชาชนคนตัวเล็ก” นายรามกล่าวและว่า

นอกจากนี้ จากสถิติ คนอินเดียแต่งงานกันเดือนละกว่า 8 แสนคู่ คิดเป็นต่อวันวันละประมาณ 27,000 กว่าคู่ ซึ่งระดับคู่แต่งงานที่มีฐานะปานกลางขึ้นไปอาจต้องใช้เงินประมาณ 10 ล้านบาท จนถึง 200 ล้านบาท ซึ่งคนอินเดียมีหลักคิดและ Trend ที่ต้องการออกไปจัดงานแต่งงานยังนอกประเทศ ด้วยเหตุผลทางสังคม เพื่อยกระดับสถานะของตนเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรม (Destination Weddings) ที่รัฐควรจะให้ความสำคัญและอำนวยความสะดวก เพื่อให้คนอินเดียกลุ่มนี้ เข้ามายังประเทศไทย เพื่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ