กระทรวงมหาดไทย-สมาคมแม่บ้านมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานสืบสานพระราชปณิธาน “นาหว้าโมเดล”

น้อมนำพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานสืบสานพระราชปณิธาน “นาหว้าโมเดล” ในโอกาสครบรอบ 50 ปี โครงการศิลปาชีพ

วันนี้ (28 มิ.ย. 65) เวลา 14:00 น. ที่บ้านนาหว้า ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการสืบสานพระราชปณิธาน “นาหว้าโมเดล” ในโอกาสครบรอบ 50 ปี โครงการศิลปาชีพ โดยมี นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผศ.ดร. ศศิธร จันทมฤก ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นางกาญจนี รุจนเสรี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครพนม นายวรงค์ แสงเมือง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน นายสถาพร สว่างแสง ผู้อำนวยการฝ่ายสังคมและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ฯ

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และคณะ ได้ติดตามการพัฒนาทักษะและต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทยตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ของกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองวัดศรีบุญเรือง กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านโคกสะอาด และกลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการก่อสร้างพื้นที่ฟื้นฟูการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ตามโครงการสืบสานพระราชปณิธาน “นาหว้าโมเดล” ในโอกาสครบรอบ 50 ปี โครงการศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระองค์ทรงมีพระราชวินิจฉัยและพระราชทานแนวพระราชดำริเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยในชนบทให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยทรงมุ่งมั่นทุ่มเทเพียรพยายามในการที่ดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรชาวไทยมาเป็นระยะเวลามากกว่า 60 ปี ด้วยกุศโลบายที่สำคัญ คือ การนำเอาภูมิปัญญาผ้าไทยที่คนไทยในชนบททั่วประเทศ ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาผ้าไทยสืบสายโลหิตกันมาอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ พื้นที่บ้านนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนมแห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จมาทรงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพร้อมกับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และทอดพระเนตรเห็นผู้คนที่มาเฝ้ารับเสด็จต่างสวมใส่ผ้าไหมที่ทอเอง โดยทรงครุ่นคิดว่าจะช่วยเหลือพี่น้องชาวนาและเกษตรกรที่มาเฝ้าฯ ให้มีอาชีพเสริมเพื่อทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยพระราชทานแนวความคิดไปสู่การปฏิบัติ ด้วยการทรงยุยงส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่แห่งนี้ได้ทอผ้า เพื่อที่จะขายให้พระองค์พระองค์ท่านก่อน เป็นที่มาของคำว่า “ขาดทุนคือกำไร” ทั้งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนใช้เวลาว่างจากการทำเกษตรกรรมให้เป็นประโยชน์ด้วยการทอผ้าเป็นอาชีพเสริม โดยทรงจัดตั้งโครงการศิลปาชีพ เมื่อปี 2515 ถือเป็นโครงการศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แห่งแรก โดยพระราชทานแนวทางให้ประชาชนทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม เพื่อจะได้พึ่งพาอาศัยช่วยเหลือกัน ซึ่งตรงกับหลักการบริหารสมัยใหม่ ซึ่งมีอายุครบ 50 ปีในปีนี้ ซึ่งเป็นปีมหามงคล ที่พระองค์ท่านทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา และที่นับเป็นโชคดีของพี่น้องประชาชนชาวนาหว้า และคนไทยทุกคน คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้ทรงเป็นพระราชนัดดา (หลาน) ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีความมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระองค์ท่าน ด้วยเจตนารมณ์เดียวกันกับพระองค์ท่าน คือ “พัฒนาคน” ด้วยการทำให้พี่น้องประชาชนรวมกลุ่มกันใช้ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างประโยชน์สุขที่ยั่งยืนให้กับพวกเราคนไทยทุกคน

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า เมื่อ 50 ปีก่อน ณ ดินแดนนาหว้าแห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการอนุรักษ์และสืบสานอัตลักษณ์วัฒนธรรมที่งดงามของไทย และเป็นบุญของแผ่นดินไทย ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระปณิธานสืบสานด้วยพระปรีชาชาญ พระวิริยะ พระอุตสาหะ และพระราชหฤทัยที่มุ่งมั่นมาก การลงพื้นที่ในวันนี้ ทำให้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านสถานที่เพื่อสนองพระดำริในด้านการสร้างความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การก่อสร้างโรงเลี้ยงไหม และปรับปรุงสถานที่สำหรับการทอผ้า รวมถึงพัฒนาการของช่างทอผ้า ที่ได้สนองแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากการโค้ชชิ่งผ้า โดยผู้ทรงคุณวุฒิด้านผ้าและดีไซเนอร์ที่ทรงเชื้อเชิญมาให้คำแนะนำช่างทอผ้าให้ได้รับการพัฒนา ต่อยอด ทักษะฝีมือ เพื่อผลิตผ้าตรงตามความต้องการของตลาดและแฟชั่นอย่างต่อเนื่อง อันจะยังผลให้ลูกหลานนาหว้าได้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นจากต้นทุนภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ได้รับการพัฒนาให้เกิดความร่วมสมัยอย่างยั่งยืน

นายสถาพร สว่างแสง ผู้อำนวยการฝ่ายสังคมและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยการพัฒนาและติดตั้งระบบไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงไฟส่องสว่างให้กับกลุ่มทอผ้าพื้นเมือง ในพื้นที่อำเภอนาหว้า อันได้แก่ กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองวัดศรีบุญเรือง กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านโคกสะอาด และกลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ ในโอกาสครบรอบ 50 ปีโครงการศิลปาชีพ และในวาระครบ 130 ปีกระทรวงมหาดไทย อันเป็นการส่งเสริมให้ช่างทอผ้า มีไฟฟ้าที่ส่องสว่างในการประกอบอาชีพ และสร้างความปลอดภัยในการใช้ระบบไฟฟ้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาผ้าไทยให้คงอยู่คู่กับบ้านนาหว้า และประเทศไทยอย่างยั่งยืนสืบไป