“ไทยสร้างไทย” ถาม “ประวิตร” เงินเยียวยาต้นทุนการผลิตลำไยไร่ละ 2,000 บาทอยู่ไหน หลังลงไปรับปากเกษตรกรแล้วเงียบหายไป เชื่อปีนี้สถานการณ์ราคาลำไยย่ำแย่หนัก เหตุปุ๋ยขึ้นราคากว่า 3 เท่าทำต้นทุนเกษตรกรสูงกว่าทุกปี

วันที่ 28 มิถุนายน 2565 นายปรเมธากร สวนแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวภายหลังลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากเกษตรกรผู้เพาะปลูกลำไยในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวตามฤดูการผลิตประจำปี คือระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ซึ่งปี 2565 นี้คาดว่าจะมีผลผลิตลำไยกว่า 4.4 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 กว่า 9.4% แต่จนถึงขณะนี้ชาวบ้านยังไม่สามารถทราบถึงราคารับซื้อในปัจจุบันได้เพราะไม่ได้มีนโยบายหรือมาตราการใดๆออกมารองรับผลผลิตลำไยจากภาครัฐ เหมือนสินค้าการเกษตรอื่นๆ

โดยเกษตรกรผู้เพาะปลูกลำไย ได้สะท้อนถึงปัญหาและความวิตกกังวลถึงราคาลำไยในปีนี้ว่าสถานการณ์ค่อนข้างหนักกว่าปี 2564 เนื่องจากปัจจุบันราคาปุ๋ย เคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลลำไยนั้นปรับขึ้นราคาหลายเท่าตัว บางสูตรราคา 2,000 กว่าบาทต่อกระสอบแล้ว ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของเกาตรกรสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา

“ชาวสวนลำไยฝากถามพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เคยลงพื้นที่และรับปากกับเกษตรกรผู้เพาะปลูกลำไย เมื่อวันที่ 21 มกราคมว่าจะมีการเยียวยาต้นทุนการผลิตลำไย 2,000 บาทต่อ 1 ไร่ให้กับเกษตรกรนั้น ปัจจุบันขั้นตอนการดำเนินการเยียวยาไปถึงไหนอย่างไรแล้วและท้ายที่สุดเกษตรกรผู้ปลูกลำไย จะได้รับเงินเยียวยาจริงหรือไม่ หรือมีเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงในการรับเงินเยียวยาอย่างไร ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงเงินเยียวยาดังกล่าวไม่ได้มากมายและเพียงพอต่อการปรับตัวของราคาปุ๋ยและราคารับซื้อลำไย แต่ก็เป็นกำลังใจของเกษตรกร ที่จะประกอบอาชีพผู้เพาะปลูกลำไยต่อไป และถือว่าลำไย เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของภาคเหนือ”

นายปรเมธากรกล่าวต่ออีกว่า จากการติดตามเรื่องเกี่ยวกับปัญหาลำไย จะพบว่าปัจจุบันมีการยื่น ร่าง พ.ร.บ.ลำไย เข้าสู่สภาเพื่อพิจารณาออกเป็นกฎหมายตามขั้นตอนแล้ว แต่ส่วนตัวเชื่อว่า พ.ร.บ.จะไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในสภาชุดนี้ เนื่องจากสภาเองไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องลำไยเป็นวาระเร่งด่วน และมีวาระหัวข้อต่างๆคงค้างในการพิจารณาอีกเป็นจำนวนมาก และส่วนตัวจะดำเนินการติดตามเรื่องดังกล่าวนี้ต่อไป