“ไทยสร้างไทย” จี้รัฐหาทางแก้วิกฤตของแพง เชื่อม็อบปะทุหากยุติปัญหาน้ำมันแพงไม่ได้

“ไทยสร้างไทย”จี้รัฐเร่งหาแนวทางแก้วิกฤตสินค้าราคาแพงหลังสินค้าทุกชนิดจะพาเหรดขึ้นราคาพร้อมกันทั่วประเทศ 1 กรกฎาคมนี้ เชื่อจะมีม็อบออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลมากขึ้น หากยังยุติปัญหาน้ำมันแพงไม่ได้

 

วันที่ 27 มิถุนายน 2565 นายภัชริ นิจสิริภัช คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึง สถานการณ์สินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้น เกือบทุกรายการ และยังมี สินค้าจำเป็นเพื่อการยังชีพที่เตรียมจะปรับขึ้นราคา เช่นข้าวถุง จะขึ้นถุงละ 10-30 บาท โดยข้าวหอมมะลิบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัมจะปรับขึ้น 30 บาทต่อถุง หรือจาก 165 บาทต่อถุงเป็น 195 บาทต่อถุง ส่วนข้าวสารเจ้าปรับขึ้น 10 บาทต่อถุงคือปรับจาก 80 ถึง 90 บาทต่อถุงเป็น 90-100 บาทต่อถุง

ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มและราคาน้ำมันถั่วเหลือง เฉลี่ยอยู่ที่ 69-73 บาทต่อขวด ซึ่งจากการสอบถามร้านค้าในตลาดพบว่ามีบางยี่ห้อแจ้งขึ้นราคาต้นทุนขนส่งน้ำมันปาล์มขนาด 1 ลิตรอีก 10 บาทต่อลัง จาก 820 บาทเป็น 830 บาทต่อลัง ส่วนราคาขายปลีกยังคงอยู่ที่ 70 บาทต่อขวด โดยร้านค้าบอกว่าหากขึ้นราคาขายปลีกจะทำให้ขายยากขึ้น อย่างไรก็ตามมีบางร้านค้าที่ปรับราคาขายปลีกขึ้น น้ำมันปาล์มและถั่วเหลืองอยู่ที่ขวดละ 70-73 บาทต่อขวด

ซึ่งราคาปาล์มน้ำมันของไทยนั้นบิดเบี้ยวมาโดยตลอด มีการกำหนดโควต้าการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องเสียประโยชน์จากราคาน้ำมันปาล์มตลาดโลก พอมีวิกฤติน้ำมันแพง คนไทยก็ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เป็นที่น่าเห็นใจอย่างที่ คนไทยต้องซื้อราคาน้ำมันในราคาแพงตลอด

นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป จะมีสินค้าอีกหลายชนิดพาเหรดกันปรับขึ้นราคา อาทิ ซอสปรุงรส น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มสุกี้ และผงชูรส นอกจากนี้ ยังมีแก๊สหุงต้ม ที่จะปรับขึ้นอีก 15 บาท ต่อถัง เป็น 378 บาทต่อถัง

ซึ่งมหกรรมสินค้าที่พาเหรดขึ้นราคาในลักษณะเช่นนี้กระทบกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะค่าครองชีพที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก แต่รายได้พี่น้องยังคงเดิมหรือลดลง จึงเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งยุติสถานการณ์ในยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ หากจะออกนโยบายหรือมาตรการในการช่วยเหลือหรือมีการปรับเปลี่ยนข้อกฎหมายใดก็จะต้องเร่งดำเนินการโดยทันที

ซึ่งที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนสะท้อนผ่านทีมไทยสร้างไทยว่า ประชาชนจะอดตายกันหมดหาก พล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ต่อเพราะคงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว ที่สำคัญราคาสินค้าต่างๆปรับตัวขึ้นหมด แต่ค่าแรงหรือรายได้ของพี่น้องประชาชน กลับไม่ได้รับการพิจารณาหรือทบทวนจากผู้มีอำนาจให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อและราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น สภาพการณ์เช่นนี้เชื่อว่าจะบีบคั้นคนไทยให้ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลมากขึ้น หากยังปล่อยให้ราคาน้ำมันหรือพลังงานสูงอยู่อย่างนี้ โดยไม่มีแนวทางแก้ไขเพราะพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว