‘ศิธา’ แฉพรรคการเมืองรับเงินจากนายทุน เขียนนโยบายต่างตอบแทน สาเหตุใหญ่ของความเหลื่อมล้ำ

น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการอำนวยการและพัฒนาการเมืองพรรคไทยสร้างไทย ร่วมอภิปรายในงาน ‘8ปีสวัสดิการสังคมไทยภายใต้ระบอบประยุทธ์กับอนาคตรัฐสวัสดิการอนาคตประชาธิปไตยไทย’ โดย We Fair กล่าวถึงโครงสร้างของการเมืองไทยที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจาก ‘การทุจริตเชิงนโยบาย’ นักธรุกิจใหญ่ๆที่ร่ำรวยเริ่มแปรสภาพจากการขายปลีก ขายส่ง มาประมูลงานจากภาครัฐ คนที่ไม่ชำนาญวิศกรรมหรือการเดินทางมาทำธุรกิจด้านนี้กันหมด แล้วพวกเขาก็ตอบแทนกลับมาให้กับพรรคการเมืองหรือนักการเมืองนั้นๆ แบบไม่มีใบเสร็จ การเป็นว่าพรรคการเมืองเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุน บางพรรครับเงินจากกลุ่มทุนถึง 5,000 ล้านบาท ในการสร้างคะแนนเสียง สิ่งเหล่านี้ทำให้ความเหลื่อมล้ำของไทย สูงเป็นอัดดับ1ของโลก คนจนจนลง คนรวยรวยขึ้น คนรวย 1% ครอบครองทรัพย์สิน 70% ของประเทศ คนอีก 99% คือคนจน ขณะที่ดัชนีทุจริตทำลายสถิติ พุ่งขึ้นสูงสุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย

แล้วจะบอกว่าคนรุ่นใหม่ก็ไม่พอใจก็ออกไปจากประเทศ ในความเป็นจริงพวกเขาออกไปไม่ได้ เพราะพวกเขาถูกปลูกฝังมาอยู่ในกรอบ การศึกษาไทยที่สอนให้เด็กท่องจำ แต่ไม่ได้สอนให้คิด ไม่ได้สอนให้เป็น Global Citizen ที่ไปแข่งขันกับต่างประเทศ ขณะเดียวกัน คนรวยที่กอบโกยสูบทรัพยากรไปจนหมดประเทศแล้ว พวกเขาค่อยไปเติบโตในต่างประเทศหรือไปอยู่ที่ไหนก็ได้ แต่พวกเรานี่แหละที่ต้องอยู่ในประเทศนี้ต่อ
.
ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเลือกพรรคไหนไม่สำคัญ แต่ขอให้เลือกพรรคที่ไม่ได้มีนายทุนหนุนหลัง และไม่เป็นประโยชน์ให้พวกเขา พวกเขา 99% ถึงจะชนะและมีอำนาจในการกำหนดนโยบาย เพราะสุดท้ายนโยบายที่ออกจากรัฐมันไม่ได้ตอบโจทย์เท่านโยบายที่มาจากประชาชน

ทั้งนี้ น.ต.ศิธา รับฟังและตอบคำถามของตัวแทน 7 เครือข่ายที่มาร่วม ได้แก่ เด็กต้องได้รับการดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์และต้องพัฒนาการศึกษาให้เป็น Global Citizen เพื่อไปแข่งกบัตลาดโลกได้, รัฐต้องจัดสรรที่ดินใหม่เพื่อให้คนชั้นแรงงานมีที่อยู่ในเมืองตามที่เขาเคยอยู่ใกล้ๆ กับแหล่งงาน แต่พัฒนาให้มีที่อยู่อาศัยที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่หลอกให้พวกเขาไปอยู่ชานเมืองไกลๆ แล้วก็เข้ามาทำงานไม่ได้เพราะค่าเดินทางแพงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ สุดท้ายก็จะขาดแคลนคนทำงานในเมือง, ประเทศไทยต้องทำขั้นบันไดภาษีให้ชัดเจน เห็นด้วยกับการเก็บภาษีมั่งคั่ง นายทุนควรเอากำไรกลับมาคืนสู่สังคม เป็นต้น
.
นอกจากนี้ยังย้ำว่าพรรคมีนโยบายที่ดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่ เริ่มจาก เรียนฟรี, กองทุนเครดิตประชาชน, ไปจนถึงบำนาญประชาชนเพื่อดูแลผู้สูงวัย อีกทั้งยังต้องดูแลกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์แตกต่าง เช่น คนพิการ หรือกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ ทั้งสวัสดิการ ความต้องการขั้นพื้นฐาน การรับคนเข้าทำงาน และอารยสถาปัตย์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานได้ อีกทั้งยังมีนโยบายหาเงินเข้าประเทศ เช่น Digital Economy ดึงดูดคนรุ่นใหม่ หรือ Digital Nomad เข้ามาทำงานในประเทศ เอากฎหมายที่เป็นอุปสรรค์ในการทำมาหากินออก และระบบภาษีที่งี่เง่าไม่เป็นธรรม สุดท้าย น.ต.ศิธา กล่าวว่า ขอให้ทุกคนมาร่วมสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดเพื่อส่งมอบให้ลูกหลาน ขอให้คนร่วมกันเลือกพรรคฝั่งประชาธิปไตยและพรรคไทยสร้างไทย เพื่อมาช่วยฝ่ายประชาธิปไตยทำงาน