วันที่ 24 มิถุนายน แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกและค้าส่ง เปิดเผยว่า วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ได้รับแจ้งจากผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคจะขอขึ้นราคาต้นทุนขนส่งและขายปลีกหลายรายการ เช่น น้ำอัดลมยี่ห้อโค้กขึ้นราคา 1-2 บาทต่อขวด โดยขนาดตั้งแต่ 1 ลิตร ขึ้น 2 บาท จาก 27 บาท เป็น 29 บาทต่อขวด และขนาดไม่ถึง 1 ลิตร อีก 1 บาทต่อขวด จาก 14 บาท เป็น 15 บาทต่อขวด น้ำปลายี่ห้อหนึ่งขึ้นราคา 2 บาทต่อขวด จาก 30 บาท เป็น 32 บาทต่อขวด นอกจากนี้ ยังมีน้ำยาซักผ้าขาว และน้ำผลไม้ที่จะปรับขึ้นแต่ยังไม่แจ้งราคา

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งและปลีกไทย กล่าวว่า มีสินค้าที่แจ้งจะปรับราคาขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ คือ ซอสปรุงรส น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มสุกี้ และผงชูรส ตามต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งที่ปรับสูงขึ้น แต่ยังไม่แจ้งว่าจะปรับขึ้นอีกกี่บาท นอกจากนี้ ยังมีน้ำอัดลมยี่ห้อเป๊ปซี่ที่แจ้งไปก่อนหน้านี้ว่าจะขึ้นราคา 1-2 บาทต่อขวด

นางยมลพร มากมา อายุ 56 ปี เจ้าของร้านค้ารายย่อย (ซาปั๊ว) ภายในตลาดสดแห่งหนึ่งย่านกรุงเทพฯ กล่าวว่า ร้านได้ปรับราคาสินค้าขึ้นหลายอย่างตามต้นทุนขนส่ง โดยเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้ปรับราคาข้าวถุงขนาด 5 กิโลกรัม เป็นข้าวหอมมะลิแท้ 100% ของทุกยี่ห้ออีก 10 บาทต่อถุง จาก 190 บาท เป็น 200 บาทต่อถุง ล่าสุด มีเส้นหมี่จีนขึ้น 5 บาทต่อถุง (ขนาด 400 กรัม) น้ำจิ้มสุกี้ขึ้น 5 บาทต่อขวด กาแฟทรีอินวันขึ้น 10 บาทต่อแพค (จำนวน 60 ห่อ) จาก 190 บาท เป็น 200 บาทต่อแพค และคาดว่าจะมีอีกหลายรายการที่จะปรับราคาขึ้นอีก

“ตอนนี้สินค้าทุกอย่างต้นทุนแพงขึ้นมาก จากค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อยี่ปั๊วขึ้นราคาต้นทุนขนส่ง เราซึ่งเป็นร้านค้าย่อยก็ต้องปรับราคาขึ้นตาม ไม่งั้นก็อยู่ไม่ไหว” นางยมลพรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรมการค้าภายในได้สำรวจราคาขายปลีกหมวดอาหารสดบางชนิดในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เทียบกับวันที่ 22 มิถุนายน 2565 พบว่า ราคาเนื้อไก่ส่วนอกปรับขึ้น 5 บาท จาก 95-100 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 100-105 บาทต่อกิโลกรัม ต้นหอมปรับขึ้น 10 บาท จาก 95-100 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 105-110 บาทต่อกิโลกรัม