อดีตทูต ชี้ “ชัชชาติ” เครื่องบ่งชี้ระหว่าง “ประชาธิปไตย” กับ “เผด็จการ”

วันที่ 24 มิถุนายน 2565 รัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครรัฐทูตหลายประเทศ ได้โพสต์ข้อความต่อความนิยมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆของชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ทำงานบริหารเมืองหลวงของไทยมาครบเกือบเดือนและความสร้างเปลี่ยนแปลงไม่เพียงต่อเมืองและประชาชนที่อาศัยในเมืองด้วยว่า

ชัชชาติ: ตัวอย่างความแตกต่างของประชาธิปไตยและเผด็จการ

หลังจากเข้ารับตำแหน่งได้ไม่ถึงเดือนก็ได้เห็นท่านชัชชาติฯ ผู้ว่า กทม. คนใหม่พบกับบรรดาเอกอัครราชทูตประเทศสำคัญในไทยหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส สวีเดน สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ฯลฯ เพื่อหารือขยายความร่วมมือระหว่างกัน ซึ่งนี่คือสิ่งที่แสดงถึงการยอมรับของนานาประเทศต่อท่านผู้ว่า กทม. คนใหม่ และเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดียิ่ง

ขณะเดียวกันก็เห็นการทำงานของท่านอย่างทุ่มเท ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย หลายเรื่องโดยเฉพาะการระบายน้ำที่ทำได้รวดเร็วมีประสิทธิภาพชนิดที่ไม่อยากเชื่อว่าทำไมมันถึงได้ต่างกันนัก ระหว่างการทำงานของคนที่เพิ่งรับตำแหน่งได้ไม่ถึงเดือน กับคนที่อยู่มาแปดปี??? ยิ่งได้ยินคนออกมาฟ้องว่าแปดปีไม่เคยมีการลอกท่อเลย ยิ่งน่าตกใจว่าอยู่กันมา ทำกันมา ได้อย่างไร ?

ทั้งหมดนี้มันชี้ให้เห็นว่าคนที่มาจากการเลือกตั้งตามแบบประชาธิปไตย กับคนที่มาจากการแต่งตั้งโดยเผด็จการนั้น มันแตกต่างกันมากในวิธีการทำงานและวิธีคิดราวฟ้ากับเหว สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งของผู้มาจากการเลือกตั้งคือการมี accountability การมีสำนึกแห่งความรับผิดชอบต่อประชาชนและส่วนรวม ซึ่งหากปรากฎว่าทำงานไม่ดี ครบเทอมเราก็เลือกคนใหม่ได้ และนี่คือหัวใจของระบบประชาธิปไตย ในขณะที่คำว่ารับผิดชอบต่อประชาชน ไม่เคยมีอยู่จริงในสมองของเผด็จการ

เพียงแค่คุณชัชชาติฯได้รับเลือกตั้งเข้ามาไม่ถึงเดือน เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่ดีขึ้นมากมายจากเดิม ที่ทำให้คนไทยวันนี้มีความหวังและมองว่าอนาคตวันหน้ามันดีขึ้นได้ด้วยการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

โดยที่ในวันนี้ (24 มิถุนายน) ถือเป็นวันครบรอบ 90 ปี การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตย 2475 ผมจึงมาขอย้ำอีกทีว่าประชาธิปไตยนั้นมันกินได้ สร้างความเจริญรุ่งเรืองกินดีอยู่ดีให้กับประเทศชาติและประชาชนได้ ขอเพียงแต่เราอดทนและยึดมั่นอยู่กับมัน เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องคอยช่วยกันปลูกฝังเสริมสร้าง และมันไม่มีทางลัด
มันไม่มีหรอกครับอัศวินม้าขาวม้าเขียวที่ปล้นอำนาจแล้วจะมาแก้โกงคืนความสุขอะไรได้จริงอย่างที่หลายคนเพ้อฝันจนบ้านเมืองต้องถอยหลังกลายเป็นเช่นทุกวันนี้

ขอให้ผลงานและความสำเร็จของคุณชัชชาติฯ ในวันนี้และวันหน้าเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับคนไทยทั้งมวลถึงความแตกต่างของประชาธิปไตยและเผด็จการ

และแม้ประชาธิปไตยในประเทศนี้จะล้มลุกคลุกคลาน ถูกตัดตอนถอนโค่นล้มมามากมายสักเท่าใด แต่หน่อต้นกล้าของมันที่ได้ถูกปลูกลงบนแผ่นดินนี้ ในวันนี้เมื่อ 90 ปีที่แล้ว ก็ยังคงฝังรากอยู่ในจิตใจคนไทยส่วนใหญ่เสมอมา และที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ!
24 มิถุนายน 2565