“ก้าวไกล” อ้อนส.ส. ทบทวน พ.ร.บ. ถอดถอนชื่อสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ หลังพบ ประเด็น ให้เปิดชื่อประชาชน ต่อผู้ถูกถอน

“ก้าวไกล” อ้อนส.ส. ทบทวน พ.ร.บ. ถอดถอนชื่อสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ หลังพบ ประเด็น ให้เปิดชื่อประชาชน ต่อผู้ถูกถอน ด้าน “นายกสมาคมอปท.” โอด อย่าเอากม.นี้มาใช้ แค่นี้ก็อ่วมแล้ว

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงข่าวกรณีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. … ว่า ยังมีข้อกังวลต่อร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจาก ไม่ได้มีการแก้ไข ปรับปรุง ตามข้อเสนอของกมธ.จากพรรค ก.ก. ตลอดทั้งข้อเสนอเรียกร้องจากสมาคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกือบทุกสมาคม และขอเรียกร้องให้ส.ส. จากทุกพรรค ได้ช่วยพิจารณาทบทวนร่างกฎหมายดังกล่าว เพราะประชาชนเข้าชื่อเพื่อมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เข้ามามีบทบาทอำนาจสอบสวนและสั่งแขวนสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นได้ด้วย ซึ่งเป็นการใช้อำนาจเช่นเดียวกับ มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ทั้งนี้หากจะบัญญัติหลักดังกล่าว ด้วยกฎหมายเดิม จะเกิดปัญหาว่าประชาชนเข้าชื่อถอดถอนยาก ดังนั้นกมธ.ควรปรับแก้ในส่วนของหลักเกณฑ์เข้าชื่อ เช่น ลดจำนวนผู้เข้าชื่อ เพื่อให้กฎหมายดังกล่าวสามารถใช้ได้จริง

นายประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว เป็นร่างที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ มีการกำหนดให้นำชื่อของประชาชนมาเปิดเผย เป็นหลักฐานการเลือกข้าง ที่ปรากฏต่อตัวผู้ถูกถอดถอน และปรากฏต่อประชาชนอีกฝ่าย ซึ่งจะก่อให้เกิดความแตกแยกของประชาชนในท้องถิ่น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีบทบัญญัติที่เพิ่มกระบวนการลงคะแนนนถอดถอนโดยลับด้วย

ด้าน นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จะมาเป็นดาบอีกดาบในการจัดการกับท้องถิ่น ซึ่งหากเป็นนักมวยก็ต้องร้องโอกแล้ว จึงอยากฝากไปถึงนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกมธ. ให้ช่วยเห็นใจท้องถิ่น เพราะท่านก็เคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมาก่อน ซึ่งหากพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวประกาศใช้ ฝ่ายตรงข้ามสามารถกลั่นแกล้งร้องเรียนมาได้ตลอด เรื่องหากมีพ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวแล้วทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ตนคิดว่าควรยกเลิกไป เนื่องจากเรามีกฎหมายอื่นอยู่แล้ว

“อย่างไรก็ตาม ผมเห็นด้วยกับการให้ ประชาชนเข้าชื่อถอดถอนได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ง่ายเช่นนี้ นอกจากนี้ สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นถูกเลือกตั้งเข้ามาด้วยคะแนนเป็นจำนวนมาก แต่คนจำนวนน้อยสามารถถอดถอนได้ผมคิดว่าไม่เป็นธรรม จึงอยากขอวิงวอนว่าอย่าเอาพ.ร.บ.ฉบับนี้มาใช้กับท้องถิ่นเลย แค่นี้ก็อ่วมแล้ว” นายกสมาคมฯ กล่าว