ทักษิณชี้ แบงก์ชาติปรับขึ้นดอกเบี้ยแน่ แนะนักลงทุนแช่หุ้นไว้ก่อน

ทักษิณชี้ แบงก์ชาติปรับขึ้นดอกเบี้ยแน่ แนะผู้ลงทุนไม่ว่าจะในหุ้นหรือบิทคอยน์ ควรปล่อยทิ้งไว้ก่อน ไม่ขาย ไม่ขาดทุน

 

วันที่ 22 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก CARE แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์พูดคุยกับ โทนี วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ในรายการ CareTalk X CareClubhouse เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา หัวข้อ เศรษฐกิจพังยับ ประยุทธ์รับมือไม่ไหว

ในไลฟ์ครั้งนี้ พูดคุยในกรณี หากยึดตามประกาศ “ถอดหน้ากากอนามัย” ของรัฐแล้ว ดูเหมือนประเทศกำลังจะผ่านพ้นวิกฤตจากโรคระบาดที่คนไทยเจอมาตลอดเกือบ 3 ปี แต่เมื่อเรา “ถอดหน้ากาก” แล้ว กลับพบ “ความจริงอันเจ็บปวด” ที่รอเราอยู่คือ มหาวิกฤตเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดซึ่งอยู่ตรงหน้า!!

น้ำมันแพงขึ้นทุกสัปดาห์จนอยากจอดรถทิ้งไว้ที่บ้าน ของแพงตะลีตะลานขึ้นทุกทีไม่มีเว้นแม้แต่มาม่า ค่าไฟแพงจนหลังและบ่าของคนทำงานที่บ้านแอ่นรับไม่ไหว เงินเฟ้อก็ช่างกระไรเฟ้อได้เฟ้อเอา คอยเฝ้าดูดอกเบี้ยของแบงค์ชาติให้ดีๆขึ้นแน่ๆเร็วๆนี้ ค่าแรงของน้องพี่ก็ยังต่ำเตี้ยเรี่ยดิน คนจนไม่มีกินคนเดินดินไม่มีตังค์ ธุรกิจเล็กใหญ่พังยับจนนับซากไม่ทัน ปลดคนกันจ้าละหวั่นหั่นรายจ่ายก่อนวายวอด

นี่คือ “ความจริงหลังถอดหน้ากากอนามัย” ที่คนไทยต้องรับมือ ซ้ำร้ายเรายังมี “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ที่อ้างว่าทำงานหนัก แต่กลับทำไม่เป็น ปล่อยให้ปัญหาทุกเรื่องเป็นดินพอกหางหมูมา 8 ปี จนกลายเป็น “ความฉิบหายสะสม” ประหนึ่งทิ้งสิ่งสกปรกโสโครก ไว้ให้คนรุ่นถัดไปต้องมานั่งรับผิดชอบ!

โดยระหว่างการไลฟ์สด กล่าวว่า ปัจจุบันคนกลัวความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 1.5%-1.75% ในการประชุมวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี เช่นเดียวกับ ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ -0.25% จากระดับ -0.75% เป็นขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 15 ปี

“ของไทย แม้จะพยายามไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) จะพิจารณาปรับขึ้นแน่นอน หนีไม่พ้น เพราะไม่ปรับขึ้นจะส่งผลให้ เงินไหลออกมหาศาล”

เรื่องถัดมา ที่หลายคนเป็นกังวล คือ อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลพวงจากพลังงานและอาหาร ซึ่งขณะนี้ทางยุโรปโวยวายว่า รัสเซียไปบล็อกไว้ แต่ส่วนตัวมองว่า หากเป็นรัสเซียก็ต้องบล็อกเหมือนกัน เพราะเล่นออกมาตรการแซงก์ชั่นทุกอย่างแบบนั้น ตอนทำคนอื่นไม่ร้อง พอเขาทำกลับแล้วมาร้อง

จึงทำให้ระบบอาหารมีปัญหา เพราะ 30% ของการบริโภคข้าวสาลีมาจากยูเครน ฝั่งที่รัสเซียยึดครอง กับรัสเซียรวมกัน ดังนั้น การที่ข้าวสาลีหายไป 30% อาหารโลกย่อมขาดแคลนแน่นอน และมีปัญหาอื่นตามมาจำนวนมาก เพราะน้ำมันแพง การทำการเกษตรเริ่มไม่คุ้มค่า ดังนั้น อาหาร เงินเฟ้อ รวมถึงราคาพลังที่เพิ่มสูงขึ้น จึงกลายเป็นวิกฤตทั้งหมด

ขณะเดียวกัน โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ออกมาระบุว่า อาวุธที่สหรัฐอเมริกาส่งไปให้ยูเครน ในที่สุดจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ด้าน นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ก็ออกมาพูดว่า สงครามยูเครนและรัสเซีย ส่งสัญญาณยืดเยื้อหลายปี ส่งผลให้ของที่ต้องเก็งกำไร ราคาร่วงทั่วโลก หุ้นก็ร่วง ขณะที่ เงินลงทุนในไทยเริ่มไหลออก

“ขอแนะนำในฐานะนักเล่นหุ้นเหมือนกัน ถึงผู้ลงทุนไม่ว่าจะในหุ้นหรือบิทคอยน์ ถ้าเก็บเงินแช่ไว้ในกระเป๋าได้ควรเก็บ หากขาดทุนเยอะก็แช่ไว้ก่อน ไม่ขายไม่ขาดทุน ไม่ต้องรีบซื้อเวลานี้ แม้ราคาจะต่ำ ระยะนี้เชื่อว่าราคาไม่ไปไหนไกล เพราะความกลัวของทั่วโลกเกิดขึ้นพร้อมกัน จึงเชื่อว่าราคาหุ้นหรืออะไรต่างๆ ยังคงไม่ปรับขึ้น หรือปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากอาวุธนิวเคลียร์ลงประเทศใดประเทศหนึ่ง ก็ตัวใครตัวมัน”