วันที่ 21 มิถุนายน 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาระบุว่า รัสเซียกำลังจับทวีปแอฟริกาเป็นตัวประกัน เนื่องจากการบุกรุกยูเครนเป็นการสกัดกั้นการส่งออกธัญพืชของยูเครน ซึ่งทำให้คนแอฟริกาได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนและราคาที่เพิ่มสูงขึ้น

เซเลนสกีกล่าวถึงประเด็นดังกล่าวขณะถูกเชิญให้กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสหภาพแอฟริกา (เอยู) ว่า “ความจริงแล้วแอฟริกาคือตัวประกันของผู้ที่ทำสงครามกับเรา”

ผู้นำยูเครนกล่าวว่ารัฐบาลของเขากำลังอยู่ระหว่างการหารือที่มีความซับซ้อนเพื่อหาทางยุติการสกัดกั้นธัญพืชต่างๆ ที่ท่าเรือริมทะเลดำ

“แม้สงครามครั้งนี้จะห่างไกลจากพวกคุณและประเทศของคุณ แต่ราคาอาหารซึ่งกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างที่เรียกได้ว่าทำให้เกิดหายนะ ได้นำสงครามไปสู่บ้านเรือนของครอบครัวชาวแอฟริกันหลายล้านครอบครัว”เซเลนสกีกล่าว

ด้านแมคกี แซล ประธานคณะกรรมาธิการเอยู กล่าวขอบคุณเซเลนสกีที่ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม และย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการพูดคุยเจรจาเพื่อฟื้นเสถียรภาพของโลก พร้อมระบุว่าแอฟริกายังคงเคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศ การหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี รวมถึงเสรีภาพในการค้าขาย

ขณะที่มีรายงานเบื้องต้นว่า เอยูไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เซเลนสกีพูดอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องการให้มีการเจรจาเพื่อแก้ไขวิกฤติเช่นที่เคยเป็นมา และมีรายงานว่ามีการเชิญผู้นำเอยูให้เข้าร่วมในการประชุมทางไกลครั้งนี้ทั้ง 55 ชาติ แต่มีเพียง 4 ชาติเท่านั้นที่ผู้นำเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง ส่วนที่เหลือได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว

ทั้งนี้ ชาติในแอฟริกามีจุดยืนที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสงครามในยูเครน โดยในการลงมติประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซียในที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีชาติแอฟริกา 17 ชาติที่งดออกเสียง

ขณะที่ โอลาฟ โซลล์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวให้สัมภาษณ์กับมุนชเนอร์ เมอเคอ หนังสือพิมพ์รายวันของรัฐบาวาเรียว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย นั้นหวาดกลัวประกายไฟของเสรีประชาธิปไตยที่จะแพร่คลุมรัสเซีย นั้นทำให้ปูตินครองอำนาจพร้อมกับพยายามแบ่งแยกยุโรปออกจากกัน นำไปสู่การกลับไปยังโลกในยุคที่ถูกครอบงำโดยชาติมหาอำนาจที่แผ่อิทธิพล

โอลาฟ กล่าวว่า ประธานาธิบดีรัสเซียต้องยอมรับว่ามีประชาคมประชาธิปไตยที่ตั้งอยู่บนกฎหมายอยู่ใกล้ชิดบ้านเขามากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าเขา (ปูติน) กลัวประกายไฟของประชาธิปไตยจะแผ่กระจายไปยังรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ไม่ได้ให้ความเห็นแต่ก็โพสต์ข้อความบนโซเซียลมีเดียว่า ประกายไฟของเยอรมนีได้แผ่มาหาเราถึง 2-3 ครั้งแล้ว เราจะไม่ยอมให้มีประกายไฟขึ้นอีก

ก่อนหน้านี้ นายกฯเยอรมนี ได้ออกมาเตือนว่าราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นน่าจะอยู่เป็นเวลานาน และปฏิเสธคำยืนยันของรัสเซียว่าได้ลดการไหลของก๊าซเนื่องจากชิ้นส่วนอะไหล่ที่จำเป็นขาดหายไปเนื่องจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ซึ่งโอลาฟมองว่าคำอธิบายแบบนี้ไม่น่าเชื่อถือ