ชัชชาติให้กำลังใจผู้ต้องขังลอกท่อ กทม. เล็งแก้ปัญหาไขมันอุดตันทั้งระบบ

 

วันที่ 20 มิถุนายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ต้องขังจิตอาสาจากกรมราชทัณฑ์ ที่ปฏิบัติงานลอกท่อระบายน้ำในพื้นที่ตลาดห้วยขวาง โดยยังไม่ได้รับค่าตอบแทน ซึ่งเริ่มดำเนินการเป็นวันแรกตามความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมราชทัณฑ์ กระทรวงการยุติธรรม

นายชัชชาติกล่าวว่า ต้องขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ริเริ่มโครงการนี้ และ กทม.นำมาสานต่อ สำหรับแผนงานล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำของ กทม. แบ่งเป็น การว่าจ้างกรมราชทัณฑ์ 530 กิโลเมตร (กม.) และแผนงานประจำ 2,856 กม. รวมทั้งหมด 3,390 กม. โดยเป็นแผนงานในปีงบประมาณ 2565

นายชัชชาติกล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบขยะอุดตันเต็มท่อระบายน้ำ มีทั้งไขมัน และขยะจากตลาดสด โดยจะต้องหามาตรการลดไขมัน อาจจะมีบ่อดักไขมันตั้งแต่ต้นทาง เพื่อแก้ปัญหาเส้นเลือดฝอยให้ดีขึ้น ทำให้อนาคตช่วยลดน้ำท่วมขังได้

“สำหรับการลอกท่อระบายน้ำนั้น อาจส่งผลให้รถติดเล็กน้อย เพราะมีรถดักเลนมาอยู่ในช่องทางจราจร แต่ก็ดีกว่าน้ำท่วมขัง ขอให้อดทน เพราะหากน้ำท่วมจะเสียหายทางเศรษฐกิจ และมีปัญหารถติดมากกว่า ดีใจที่กรมราชทัณฑ์ มีเครื่องมือป้องกันมากขึ้น ทั้งหมวกกันน็อก แว่นตา และถุงมือ เบื้องต้นได้มอบหมายให้นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. ทำแผนผังจุดที่มีขยะและมีไขมันจำนวนมาก เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป ซึ่งอาจไม่ต้องใช้เงินในการขุดลอกบ่อยมาก โดย กทม.อาจจะต้องเข้ามาช่วยต้นทางให้มากขึ้น และไม่อยากให้โทษว่าใครเป็นคนทำ ส่วนประเด็นรายได้ผู้ต้องขังที่ลอกท่อ คงต้องให้กรมราชทัณฑ์ไปจัดการกันเอง เพราะมีเรื่องระเบียบอยู่ คงไปก้าวล่วงไม่ได้ เชื่อว่ามีอาหาร มีรายได้ตอบแทนให้ แต่ไม่รู้ว่าได้เท่าไร เป็นเรื่องที่ต้องไปตกลงกันเองภายใน” นายชัชชาติกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานลอกท่อในวันนี้ มีผู้ต้องขังทั้งหมด 77 คน จาก 3 เรือนจำ ได้แก่ เรือนจำนนทบุรี เรือนจำจังหวัดปทุมธานี เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม จะทำการลอกท่อตั้งแต่ตลาดห้วยขวาง เป็นต้นไป ใช้เวลา 3 วัน ระยะทาง 5 กิโลเมตร ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ทั้งนี้ นับเป็นการลอกท่อครั้งแรกในรอบ 2 ปีของกรมราชทัณฑ์ เนื่องจากที่ผ่านมา มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึง กทม.ได้ว่าจ้างหน่วยงานเอกชนเข้ามาทำแทน

สำหรับผู้ต้องขังกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มจิตอาสา และยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างใด ส่วนที่จะเริ่มว่าจ้าง และจ่ายค่าตอบแทนนั้น จะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ตามปีงบประมาณปี 2566