‘เพื่อไทย’ ย้ำ โรคอุบัติใหม่ในสัตว์ ต้องมีแผนรับมือใหม่ ต้องทำเชิงรุก ไม่วิ่งไล่ตามปัญหา

บริหารเชิงรุก ไม่รอตั้งรับ เพื่อไทยย้ำโรคอุบัติใหม่ในสัตว์ ต้องมีแผนรับมือใหม่ คิดล่วงหน้าปฏิบัติชัดเจน ไม่วิ่งไล่ปัญหา

 

วันที่ 20 มิถุนายน 2565 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ประธานคณะทำงานนโยบายเกษตรพรรค นางสาวสกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร และนายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ คณะทำงานนโยบายเกษตรพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการจัดการโรคระบาดในสัตว์ล้มเหลว เพราะใช้แผนแบบเก่า ตั้งรับไม่รุก ไม่มีทางก้าวทันปัญหา นำพาประเทศรอดพ้นวิกฤต

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับคำร้องเรียนการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินมากมาย ติดตามสอบถามไปยังเกษตรกร ปศุสัตว์จังหวัดหลายพื้นที่ให้การตรงกันคือ ไม่มีวัคซีนมาถึงมือ จึงอยากสอบถามกระทรวงเกษตรไปว่า วัคซีนลัมปีสกินที่ได้แจกจ่ายไปแล้ว ทำไมไม่ถึงมือเกษตรกร เป็นวัคซีนทิพย์ โฆษณาชวนเชื่อ แต่ไม่มีอยู่จริงใช่หรือไม่

นางสาวสกุณา กล่าวเสริมว่า วัฎจักรการระบาดโรคในสัตว์กลับมาระบาดอีกครั้ง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับความจริง ว่าการทำงานของท่านล้มเหลวในการจัดการปัญหาโรคระบาดอย่างสิ้นเชิง สถานการณ์ตอนนี้แค่เพียงวิ่งตามปัญหาเดิมยังไม่ทัน แล้วจะหวังให้จัดการโรคระบาดระลอกใหม่ได้อย่างไร

นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวอีกว่า ความรวดเร็วคือหัวใจสำคัญในการจัดการโรคระบาด ตัวอย่างโรคลัมปีสกิน แม้จะเป็นโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย แต่หลายประเทศหลายจุดทั่วโลก อาทิ ตุรกี โมร็อกโค โรมาเนีย อียิปต์ สามารถผลิตวัคซีนที่ได้มาตรฐาน สามารถนำเข้าและกระจายปูพรมฉีดภายในเดือนเดียวรู้เรื่อง แต่น่าเสียดายที่โรคระบาดทั้ง ASF ในสุกร ลัมปีสกินในโคกระบือ ยังยืดเยื้อควบคุมการระบาดไม่ได้ แสดงให้เห็นความล้มเหลว เพราะปล่อยให้โรคเกิดขึ้นและกระจายทั่วประเทศ

ในอดีต ประเทศไทยเคยมี พรบ.โรคระบาดสัตว์ ที่ระบุข้อความและวิธีปฎิบัติชัดเจนว่า หากเห็นหรือสงสัยว่าเกิดการระบาด สามารถเสนอให้สัตวแพทย์สั่งทำลาย และชดเชย 75% ของมูลค่าตลาด แต่ต่อมาได้มีการแก้ไขข้อความแล้วเขียนวิธีการปฏิบัติให้คลุมเครือกว่าเดิม คือให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาว่าจะชดเชยจำนวนเท่าไหร่ และหากพิจารณาไม่ทันกำหนด 1 เดือน สามารถต่อเวลาขยายออกไปได้อีก ยิ่งทำให้ล้าช้ากว่าเดิม ความรวดเร็วเกิดจากกติกาที่ชัดเจน และการได้รับความร่วมมือจากเกษตรกร การจัดการโรคระบาดจึงจะสำเร็จได้

นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวปิดท้ายว่า หากเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาล เราจะไม่รอให้เกิดโรคระบาด (1) เราจะคิดวางแผนก่อนเกิดปัญหา กฎกระทรวงที่เป็นปัญหาต้องถูกพิจารณา กติกาต้องชัด (2) แผนฉุกเฉิน การจัดงบประมาณต้องพร้อมทันทีหากเกิดการกระบาด เราสามารถให้เงินตั้งต้นกองทุน เกษตรกรผู้เลี้ยงสมทบทุน เมื่อเกิดโรคระบาดเงินก้อนนี้ก็จะสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาฉุกเฉินได้ทันที (3) นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญไทยมีศักยภาพ ต้องมีการตั้งทีมงานเฉพาะกิจ คิดศึกษาวางแผนล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น วัคซีนยาต้องมีพร้อม เมื่อเกิดเหตุก็สามารถกดปุ่มใช้ได้ในทันที และ (4) การทำลายซาก ครั้งหนึ่งจำนวนมหาศาล แทนจะให้มูลค่าเป็นศูนย์ ควรถูกคิดใช้เทคโนโลยีเรนเดอริ่งแปรรูป (rendering factory process)ใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสมได้

“เพื่อไทยมีวิธีคิดและมีวิสัยทัศน์ทุกเรื่อง รวมทั้งด้านการเกษตร เราไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องจมกองทุกข์แน่นอน” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว