ชี้ทรัมป์กดดันอดีตรอง ปธน. ให้ล้มผลเลือกตั้ง แม้รู้ว่าผิด กม.

เผยคำให้การ กมธ.สอบเหตุบุกรัฐสภาสหรัฐฯ 6 ม.ค. ชี้ทรัมป์กดดันอดีตรอง ปธน. ให้ล้มผลเลือกตั้ง แม้รู้ว่าผิด กม.

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำให้การของผู้ช่วยหลายคนของนายไมก์ เพนซ์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ได้ให้ต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งทำการสอบสวนกรณีการบุกโจมตีอาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ในการไต่สวนที่มีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (16 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน พยายามกดดันนายเพนซ์ให้ล้มผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 ที่ทรัมป์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตในขณะนั้น แม้ทรัมป์จะได้รับการบอกกล่าวหลายครั้งแล้วว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมายก็ตาม

โดยนายมาร์ค ชอร์ท หัวหน้าคณะทำงานของนายเพนซ์ ให้ปากคำผ่านวิดีโอเทปต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯว่า เพนซ์ได้บอกกับทรัมป์ “หลายครั้ง” แล้วว่า เขาไม่มีอำนาจที่จะหยุดการโหวตรับรองผลการเลือกตั้งดังกล่าวในสภาคองเกรสอย่างที่ประธานาธิบดีรีพับลิกัน (ทรัมป์) ต้องการได้

รอยเตอร์

ขณะที่เกรกอรี จาค็อบ ทนายของเพนซ์ กล่าวว่า นายจอห์น อีสต์แมน ทนายความที่สนับสนุนทฤษฎีนั้น ยอมรับต่อหน้าประธานาธิบดีสองวันก่อนหน้าเกิดเหตุโจมตีอาคารรัฐสภาว่าแผนการของเขาที่จะให้เพนซ์ยุติกระบวนการดังกล่าวนั้น จะเป็นการละเมิดกฎหมาย

นอกจากนี้ ในการไต่สวนของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ยังมีการเปิดคลิปที่น่าตกใจหลายคลิปเผยให้เห็นกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์หลายพันคนลงมาจากรัฐสภาหลังบุกเข้าไปในนั้น ที่ได้ตะโกนร้องให้ลากเพนซ์ออกมาจากตึกหรือแขวนคอเขา ขณะที่มีทวีตของทรัมป์ในเวลา 14.24 น. ของวันเกิดเหตุที่การบุกอาคารรัฐสภายังดำเนินไป ทรัมป์ทวีตว่า เพนซ์ไม่กล้าที่จะหยุดการนับคะแนน ซึ่งซาราห์ แมททิวส์ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวในรัฐบาลทรัมป์ กล่าวในการให้ปากคำผ่านวิดีโอถึงเรื่องนี้ว่า นั่นทำให้รู้สึกเหมือนว่ากำลังราดน้ำมันลงบนกองไฟจากการทวีตข้อความดังกล่าว

ด้าน ส.ส.พีท อากีลา อ้างคำให้การของพยานที่บอกกับเอฟบีไอว่า พราวด์ บอยส์ หนึ่งในกลุ่มหัวขวาจัดที่เข้าร่วมในการบุกโจมตีรัฐสภา ประกาศว่าทางกลุ่มจะฆ่าเพนซ์ หากพวกเขาสามารถเข้าไปถึงตัวนายเพนซ์ได้

ทั้งนี้ เหตุการณ์กลุ่มผู้สนับสนุนของทรัมป์บุกอาคารรัฐสภาเพื่อต่อต้านการโหวตรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 ที่ทรัมป์กล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้งนั้น ได้ทำให้ผลการโหวตรับรองชัยชนะของไบเดนของสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 เกิดความล่าช้าไปหลายชั่วโมง และเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บมากกว่า 140 นาย และทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายด้วย