ทีมเศรษฐกิจไทยสร้างไทย ชี้ ไทยต้องเร่งเปิดประเทศเต็มที่ หนุนภาคท่องเที่ยวดึงเม็ดเงินเข้าประเทศโดยเร็วแก้เงินบาทอ่อนค่า หวั่นรัฐคิดช้า ทำช้า ทำคนไทยจนถ้วนหน้า หากินฝืดเคือง เพิ่มความเหลื่อมล้ำให้สูงยิ่งขึ้น

 

วันที่ 15 มิถุนายน 2565 นายภัชริ นิจสิริภัทร คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงสถานการณ์ของค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง โดยกล่าวว่า ลักษณะของเงินจะไหลจากต่ำไปสูง ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก การเคลื่อนไหวจึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของโลก โดยเฉพาะไทยที่พึ่งพาการส่งออกและท่องเที่ยวเป็นรายได้หลัก สูงถึงร้อยละ72 ตอนนี้สิ่งที่เกิดคือ เงินเฟ้อในสหรัฐ 11สูงสุดในรอบ40ปี นั่นทำให้ค่าครองชีพแพงขึ้น ขณะที่รายได้เท่าเดิม

ทางธนาคารกลางสหรัฐก็ใช้วิธีขึ้นดอกเบี้ยแน่นอน เงินจากทุกที่ในโลกจะไปที่สหรัฐอเมริกา เพราะดอกสูง จากที่บอกว่า เงินจะไหลจากที่ต่ำไปที่สูง ประเทศไทยจึงประสบปัญหาเงินเฟ้อสูงในรอบ20ปี คาดว่าน่าจะถึง7% แต่ดอกเบี้ยนโยบายเรายังต่ำอยู่เทียบกับสหรัฐ ดอกเราตอนนี้ไม่เกิน 0.5% ต่อปี

เงินจึงไหลไปสหรัฐ บวกกับปัญหาโควิดที่ยาวมาต่อเนื่องถึงสองปี จากนักท่องเที่ยว40ล้านคนที่นำเงินตราเข้าประเทศไทย สร้าง GDP ถึงปีละกว่า2ล้านล้านบาท ตอนนี้มีไม่ถึงล้านคน เงินก้อนนี้หายไป แถมยอดการส่งออกที่น้อยลง ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาทดแทน จะเห็นว่าหลายโรงงานย้ายฐานผลิตไปที่อื่นด้วยซ้ำ เมื่อรวมกับเงินไหลออกเพราะดอกต่ำ ทำให้เงินบาทเราอ่อนค่า วันนี้อ่อนมาถึง 35บาทต่อดอลล่าร์เรียบร้อย

เมื่อค่าเงินบาทอ่อน ประเทศไทยต้องพึ่งพาทรัพยากรทางพลังงานนำเข้าเป็นหลัก เราบริโภคน้ำมันวันละ1ล้านบาเรล แต่ผลิตได้เพียงแสนกว่าเท่านั้น ซึ่งส่วนที่นำเข้าต้องใช้เงินดอลลาร์ในการซื้อ หมายความว่าถ้าเงินบาทอ่อน เราก็ใช้เงินบาทมากขึ้น ราคาขายปลีกน้ำมันก็สูงขึ้น เราใช้ระบบการขนส่งทางล้อเป็นหลักในไทย ภาคขนส่งก็จะมีต้นทุนสูงขึ้น ราคาสินค้าก็แพงขึ้นตามกลไก

แถมภาวะเงินเฟ้อที่สูงในไทย แต่รายได้เท่าเดิมหรือน้อยลง คราวนี้เรียกว่า เกิดผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งเคยเกิดขึ้นในปี 2541 มารอบนึงจากวิกฤตต้มยำกุ้ง คราวนั้นกระทบกับคนระดับกลางถึงบน แต่ในปี2565 กระแทกเต็มๆกับคนระดับล่าง จะเห็นว่า จนกันถ้วนหน้า หากินฝืดเคือง ช่องว่างคนรวยคนจนห่างกันมาก คนที่รวยยังมีทุน มีเงิน ใช้ชีวิตสบาย ขับรถหรู กินไวน์แพง ช้อปปิ้งแบรนด์เนม แต่คนระดับกลางลงมา ชีวิตแย่แบบไม่รู้จะหาทางออกยังไง

เราอาจจะได้เห็นทางแก้ของไทยคือ ขึ้นดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง แต่จะช่วยได้แค่ไหน ในเมื่อเงินยังไหลออก และ เงินตราต่างประเทศเรายังคงหายไป โดยเฉพาะจากการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคบริการ ที่หายไปสองปีรวมกว่า 4ล้านล้านบาท วันนี้เราต้องเปิดประเทศเต็มที่แล้วครับ ต้องให้ภาคท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงถึงเกือบ 15%ของGDP ให้กลับมาโดยไว เพราะโดยเฉลี่ย นักท่องเที่ยวต่างชาติจะใช้เงินราว 50,000บาทต่อหัว ปีนึงเรามี40-50ล้านคนที่เข้ามาเที่ยวไทย

ภาครัฐต้องตระหนักที่จะกู้เงินมา7แสนล้านมาชดเชยเงินงบประมาณที่ขาดดุล แต่จะทำยังไงให้7แสนล้านบาทนี้จะมีประสิทธิภาพให้เศรษฐกิจไทยลืมตาอ้าปากได้ ไม่ใช่บ้าบอเอาไปซื้ออาวุธ หรือ ทำโครงการละลายแม่น้ำ ฝากไว้นะครับรัฐบาลคุณประยุทธ์ เงินที่มีขึ้นกับคนใช้เงิน ถ้าใช้อย่างฉลาดก็เกิดประโยชน์ ถ้าใช้แบบโง่ก็จะพัง อะไรที่เอื้อนายทุน คนรวย เพลาๆลงหน่อย หนี้สาธารณะวันนี้เรากว่า10ล้านล้านบาทแล้ว คิดถึงคนรุ่นหน้าลูกหลานบ้างว่าต้องมาตามใช้หนี้ก้อนนี้ ซึ่งไม่รู้อีกกี่ชาติจะใช้หนี้หมด