วันที่ 15 มิถุนายน 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า โวโลโดมีร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครน กล่าวผ่านวิดีโอวันนี้ว่า กองทัพยูเครนกำลังเผชิญความสูญเสียจากการสู้รบต้านการรุกรานของกองทัพรัสเซียในเมืองซีวีร์โรโดเนสก์และเมืองในเขตปกครองคาร์คิฟ พร้อมกับเรียกร้องให้หลายชาติส่งอาวุธต่อต้านขีปนาวุธเพื่อสกัดการโจมตีของกองทัพรัสเซียที่โจมตีระยะไกลด้วยมิสไซล์ถล่มเมือง ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่ประเทศหุ้นส่วนจะชะลอการส่งมอบ จรวดรัสเซียบางลำกำลังหลบเลี่ยงการป้องกันและก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย ทำให้กองทัพยูเครนพยายามอพยพพลเรือนยูเครนออกจากเมืองที่สู้รบกันดุเดือด

เซเลนสกี้กล่าวว่า การสู้รบที่ดุเดือดที่สุดเช่นเมื่อก่อนอยู่ในเมืองซีวีร์โรโดเนสตก์ รวมถึงเมืองอื่นๆและชุมชนใกล้เคียงอื่น ๆ น่าเสียดายที่การสูญเสียนั้นเจ็บปวด แต่เราต้องเข้มแข็งไว้ ความเข้มแข็งเป็นสิ่งสำคัญในแนวรบดอนบาส ยิ่งศัตรูทนทุกข์ทรมานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีกำลังน้อยลงในการเข้ารุกราน

อย่างไรก็ตาม เซเลนสกี้ก็ยอมรับว่า ทางยูเครนเองก็เห็นความสูญเสียอันน่าเจ็บป่วยในเขตปกครองคาร์คิฟ การต่อสู้ยังดำเนินต่อไปที่นั่น และเราต้องสู้ต่อไป ต่อสู้ให้หนัก

ด้านเยน สโตเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ ได้กล่าวระหว่างประชุมนอกรอบกับผู้นำเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก โปแลนด์ ลัตเวีย โรมาเนีย โปรตุเกส และเบลเยี่ยม ก่อนประชุมสุดยอดที่กรุงมาดริดปลายเดือนนี้ ได้ระบุว่า นาโต้ จะต้องสร้างความพร้อมให้สูงขึ้นอีก และเสริมขีดสมรรถนะอาวุธของชาติสมาชิกตามแนวชายแดนตะวันออก หลังรัสเซียทำสงครามรุกรานยูเครน

เลขาฯนาโต้กล่าวว่า ในการประชุมที่มาดริด เราจะเห็นชอบต่อการเสริมสมรรถนะของเรา และคืนนี้เราจะหารือความจำเป็นในการเพิ่มและความพร้อมการรบและรวมถึงความพร้อมขั้นสูงสุด

ส่วนท่าทีของประธานาธิบดียูเครนนั้น สโตเตนเบิร์กกล่าวว่า เขาเห็นด้วยกับรัฐบาลยูเครนว่าควรส่งกำลังเสริมในอาวุธ แต่ไม่ระบุรายละเอียดว่าจะสนับสนุนอะไร

ด้านมาร์ค รูทท์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า ในแง่ของอาวุธ เรายืนหยัดในที่นี้ว่ารัสเซียต้องแพ้สงครามเป็นสิ่งสำคัญ และเนื่องจากเราไม่สามารถเผชิญหน้ากันโดยตรงระหว่างกองทหารของนาโต้ กับรัสเซีย สิ่งที่เราต้องทำคือต้องแน่ใจว่ายูเครนสามารถต่อสู้กับสงครามนั้นได้ ให้สามารถเข้าถึงอาวุธที่จำเป็นทั้งหมดได้