ขอบคุณข้อมูลจาก | ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
สองมหาอำนาจ จีน กับ สหรัฐ ฮึ่มๆ กันมาพักใหญ่แล้วในประเด็นไต้หวัน ล่าสุด รัฐมนตรีกลาโหมของสองชาติมีโอกาสพบปะกัน และมีคำว่า “สงคราม” อยู่ในการสนทนานี้ด้วย
วันที่ 11 มิถุนายน 2565 บีบีซี รายงานว่า นายเว่ย เฟิงเหอ รมว.กลาโหมจีนกล่าวเตือนสหรัฐอเมริกาว่า หากมีความพยายามใดๆ ที่จะทำให้ไต้หวันแยกตัวเป็นเอกราชจากจีน ย่อมทำให้กองกำลังทหารของจีนต้องเปิดปฏิบัติการทางทหาร
“หากไต้หวันแยกจากจีน กองทัพปลดปล่อยประชาชนจะไม่เหลือทางเลือกอีกนอกจากต้องรบอย่างเต็มอัตราศึก และบดขยี้ความพยายามที่จะเป็นเอกราช เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนของจีน”
นายเว่ยกล่าวชัดเจนถึงประเด็นนี้ระหว่างพบปะหารือนอกรอบกับนายลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐอเมริกา บนเวมีการประชุมสุดยอดความมั่นคงเอเชีย ที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมประณามที่สหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวัน
ด้านนายออสตินกล่าวกับนายเว่ยอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน ว่า ความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนที่ส่งเครื่องบินไปโฉบใกล้ไต้หวันเป็นการยั่วยุง บั่นทอนสันติภาพ และเสถียรภาพในภูมิภาค
รมว.ต่างประเทศสหรัฐกล่าวด้วยว่า สหรัฐยังคงเคารพสถานภาพที่เป็นอยู่ คือการที่จีนมีรัฐบาลเดียว และไม่เห็นด้วยที่ไต้หวันจะแยกตัวเป็นเอกราช ดังนั้นจึงไม่ควรมีความพยายามแก้ไขสถานการณ์ตึงเครียดด้วยกำลัง
บีบีซีรายงานว่า การพบปะกันครั้งแรกของรมว.กลาโหมของสองชาติ ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง นายเว่ยกล่าวภายหลังว่า การหารือราบรื่นดี สองฝ่ายต่างแสดงความเป็นมิตรจริงใจต่อกัน
ส่วนนายออสตินกล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ควรต้องรักษาการสื่อสารที่เปิดสายกับกองทัพจีนไว้เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดให้ทันการณ์
ก่อนหน้านี้ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ไต้หวันแจ้ว่า ได้เคลื่อนกำลังฝูงบินรบ 22 ลำ ออกไปเตือนเครื่องบินรบของจีน 30 ลำ ที่เข้ามายังน่านฟ้าป้องกันตนเอง นับเป็นเหตุการณ์บุกรุกที่ใหญ่ที่สุดนับจากเดือนมกราคม