โฆษกรบ. ยันประยุทธ์ ลงพื้นที่ถี่ ไม่เกี่ยวการเมือง ปัด ‘3 ป.’ พบปชช. เช็กเรตติ้งก่อนเลือกตั้งใหญ่

‘โฆษกรัฐบาล’ ยัน ‘บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่ถี่ ไม่เกี่ยวการเมือง ปัด ‘3 ป.’ พบ ปชช. เช็กเรตติ้งก่อนเลือกตั้งใหญ่ แย้ม ‘บิ๊กตู่’ คุณสมบัติเหมาะสมเป็นผู้นำต่อไป เหตุซื่อสัตย์สุจริต-ผลงานเป็นที่ประจักษ์ เชื่อ ศึกซักฟอกไม่ระคายเสถียรภาพรัฐบาล

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ จ.สกลนคร วันที่ 15 มิถุนายน ว่า การลงพื้นที่ของนายกฯไม่ได้เป็นสัญญาณทางการเมือง ตามปกติหากนายกฯ มีเวลาจะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่เคยสั่งการไปแล้ว ส่วนครั้งนี้ที่ จ.สกลนคร เป็นการติดตามโครงการพระราชดำริ ที่เกี่ยวกับภาคการเกษตร ดังนั้น การลงพื้นที่ของนายกฯ จึงไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่เป็นการติดตามผลสัมฤทธิ์ของโครงการของรัฐบาลซึ่งสำเร็จไปแล้วหลายโครงการ

เมื่อถามว่า กรณีการลงพื้นที่ร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อย่างพร้อมหน้า ถือเป็นการเช็กกระแสความนิยมของตัวเองก่อนการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า คงไม่ได้เกี่ยวข้องกัน อยู่ที่เวลาของทั้ง 3 คน ว่างพร้อมกันหรือไม่ หากว่างพร้อมกันไปด้วยกัน เพราะมีหลายโครงการที่ต้องบูรณาการร่วมกันหลายกระทรวง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงยุติธรรม เป็นต้น นอกจากนี้ นายกฯ ยังชอบลงพื้นที่อยู่แล้ว เพราะต้องการพบปะกับประชาชน เพื่อดูทุกข์สุขของประชาชน อีกทั้งยังเป็นช่องทางหนึ่งที่ประชาชนจะได้สะท้อนปัญหาให้นายกฯ โดยตรง

เมื่อถามว่า ผลตอบรับของประชาชนที่มีต่อนายกฯระหว่างลงพื้นที่เป็นอย่างไร นายธนกรกล่าวว่า คิดว่าวันนี้ประชาชนให้การต้อนรับนายกฯเป็นอย่างดี เพราะนายกฯ ย้ำเสมอว่าจะต้องช่วยเหลือประชาชนทุกจังหวัดทุกกลุ่ม โดยไม่เลือกว่าจังหวัดใดจะเลือกพรรคการเมืองใด หรือจะช่วยประชาชนที่เคยเลือกพรรคเท่านั้น เหมือนที่อดีตนายกฯ คนหนึ่งพูด นายกฯ ไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด นายกฯ มองประชาชนทุกคนคือคนไทยด้วยกัน จึงจะไปทุกพื้นที่ เชื่อว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา ประชาชนได้เห็นความมุ่งมั่นและความตั้งใจของนายกฯ ในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตโควิด-19 ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่และการทำงานช่วงนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์หมายความว่า มีความชัดเจนที่จะชิงตำแหน่งเพื่อเป็นนายกฯ ต่อไปใช่หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า ตนตอบแทน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้แต่ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์มีคุณสมบัติที่สามารถเป็นผู้นำได้ต่อไป เพราะมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีประสบการณ์ความสามารถในการบริหารงาน หากมองด้วยใจที่เป็นธรรม ตนคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังทำงานได้ดี ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเป็นภาวะที่ไม่ปกติ เพราะมีผลกระทบจากโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน และวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ประดังเข้ามามาก สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ดำเนินการอยู่ในช่วงที่ผ่านมา คิดว่าทำได้ดี

เมื่อถามว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จนต้องสะดุดลงใช่หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา เห็นแล้วว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพ และมีความมั่นคง ดังนั้น นายกฯ จึงมีความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้อยู่แล้ว และคิดว่าจะกลายเป็นเวทีหนึ่งที่ทำให้นายกฯ และรัฐมนตรีแต่ละคนได้ชี้แจงในสิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายได้ รวมทั้งยังสามารถใช้เป็นเวทีนำเสนอผลงานของรัฐบาลได้ด้วย