เผยแพร่ |
---|
ลุงป้อม ห่วงเกษตรกร กำชับ บจธ. สร้างอาชีพ เสริมรายได้ เพื่อความอยู่ดี กินดี อย่างยั่งยืน
27 พฤษภาคม 2565 พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. กล่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล บจธ. มีความห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น รวมไปถึงมีแนวโน้มที่จะเกิดการสูญเสียสิทธิในที่ดินทำกินในอนาคต จึงสั่งการให้ บจธ. ดำเนินการติดตามผลการดำเนินงานทุกพื้นที่ พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรในโครงการสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง และหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบอยู่ระหว่างการขอรับความช่วยเหลือดังกล่าว โดย บจธ. ได้ดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้มีที่ดินทำกินไปแล้วจำนวน 482 ครัวเรือน พื้นที่ประมาณ 1,234 ไร่ และโครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน จากการจำนอง ขายฝาก และถูกบังคับคดี ได้มีที่ดินของตนเองกลับคืนมาแล้วจำนวน 415 ราย รวมเนื้อที่ทั้งหมด 2,917 ไร่
นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการ บจธ. เปิดเผย ว่า ปัจจุบัน บจธ. ได้ให้การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนไปแล้ว 11 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ 1 สหกรณ์การเกษตร ใน 5 ภูมิภาค
ในส่วนความคืบหน้าของการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ของ บจธ. นั้น เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา เป็นการแก้ไขบทบัญญัติในการยุบเลิกสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.) โดยให้ขยายระยะเวลาดำเนินการออกไปอีก 3 ปี เพื่อให้การของ บจธ. มีความต่อเนื่องในการดำเนินภารกิจเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างทั่วถึง และได้รับการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน
โดย บจธ. ได้เร่งติดตามความก้าวหน้า สนับสนุนสาธารณูปโภค อบรมความรู้ทางวิชาชีพ และส่งเสริมการตลาดให้สมาชิกเกษตรกรทั้ง 12 พื้นที่ของ บจธ. ให้มีอาชีพที่มั่นคงและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่
วิสาหกิจชุมชนรวมพลังสร้างอาชีพวัดประดู่ ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี จุดเด่นชุมชน “ชุมชนเข้มแข็ง แหล่งผลิตปาล์มน้ำมันที่สำคัญ ต้นแบบการบูรณาการร่วมกับท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม”สมาชิก 23 ครัวเรือน เนื้อที่ 117 ไร่เศษ นายสุนทร ไทรจำเนียร ประธานกลุ่มฯ กล่าวว่า กลุ่มเรามีความเข้มแข็ง ลักษณะพื้นที่เป็นสวนผสมผสาน มีทุเรียนเป็นหลัก ผสมกับมะม่วง ขนุน กล้วย เงาะ ไผ่ สะตอ เพกา สับปะรด สมุนไพรต่างๆ ที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีและไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ใช้เพียงน้ำหมักไล่แมลง และปุ๋ยหมักชีวภาพ เป็นสวนที่ปลอดสารเคมี 100 % ได้รับการรับรองเป็นเกษตรอินทรีย์ บจธ. ได้ประสานวิทยากรจากสมาคมเกษตรอินทรีย์ สุราษฎร์ธานี มาช่วยให้ความรู้เรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ แนวคิดและวิธีปฏิบัติการวิถีเกษตร ตามศาสตร์พระราชาสู่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนวันนี้ เราก็จะใช้หลักทฤษฎีบันได 9 ขั้น ของเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยเริ่มจากพอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น ไปจัดการในแปลงตัวเอง แปลงไหนที่ยังทำไม่เต็มที่ เราจะช่วยกัน จะวางแผนพื้นที่ ขอบคุณ บจธ. จริงๆ ที่ให้เราได้มีรายได้ มีความมั่นคงในชีวิต
เกษตรกรและผู้ยากจนที่ประสบปัญหาเรื่องที่ดินทำกินสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่
โทร 0 2278 1648 ต่อ 601, 511
หรือสอบถามพูดคุยได้ที่ inbox เว็บไซต์ https://www.labai.or.th/