“ประยุทธ์” แจงวุ่น ปมแลกอาวุธญี่ปุ่น ลั่นไม่ได้รบกับใคร โวซอฟต์เพาเวอร์ไทย

นายกฯ ชี้การแก้ปัญหาต้องใช้เวลา ยันซอฟต์เพาเวอร์ไทย ไม่ได้มีแค่ข้าวเหนียวมะม่วง แจงแลกเปลี่ยนอาวุธญี่ปุ่น ไม่ใช่ไปรบกับใคร อย่าตีความเลอะเทอะ

 

วันที่ 26 พ.ค.2565 ที่ประเทศญี่ปุ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมการประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ 27 ระหว่างการเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ วันที่ 26-27 พ.ค.ว่า ตนเร่งรัดให้มีพื้นที่เศรษฐกิจอีก 4 ภาค ซึ่งต่อยอดจากอีอีซี เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ รวมถึงสร้างคนรุ่นใหม่ให้มาทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นจุดเชื่อมต่อของภูมิภาค ที่ไม่ใช่ประเทศไทยเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ แต่ทำเพื่อเพื่อนอีก 9 ประเทศด้วย โดยการเชื่อมโยงด้วยดิจิตอล ทั้งการค้าออนไลน์และการใช้บิ๊กดาต้าร่วมมือกันแสวงหาจุดร่วม

นายกฯ กลาวว่า ยืนยันว่าการทำแบบนี้ ใช้เวลาไม่ใช่น้อย ไม่ใช่ทำวันนี้ แบบคิดวันนี้แล้วพรุ่งนี้จะเกิด หลายอย่างต้องทำมา 7-8 ปีที่ผ่านมา ทั้งร้อยเรียงปัญหา และวิธีแก้ปัญหา ภาษาไทยเรียกว่า อริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ซึ่งเป้าหมายเศรษฐกิจของไทยคือ สร้างรายได้ พัฒนาบุคลากรที่มีฝีมือ การศึกษาที่ตอบโจทย์ศตวรรษที่ 21

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการท่องเที่ยวในไทยว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนมากขึ้น ขออย่าทำให้เสีย เพราะรัฐบาลและศบค.พยายามอย่างเต็มที่ แม้เวลานี้จะเข้าหน้าฝนแล้ว ขออย่ากลัวหน้าฝน ต้องทำให้ Low season (โลว์ซีซั่น) เป็น High season (ไฮซีซั่น) ดินแดนแห่งฝน ดินแดนแห่งสีเขียว ดินแดนแห่งความสวยงามเวลาฝนตก เหล่านี้คือ Soft power (ซอฟต์เพาเวอร์) ทั้งอาหาร ท่องเที่ยว ธรรมชาติ ประเพณี อัตลักษณ์ นี่คือพลังอำนาจของอาเซียน ที่ต้องให้ความสำคัญทั้งการตลาดต่างประเทศและในประเทศ ด้วยการใช้ประโยชน์ทรัพยากรในประเทศให้มากขึ้น

“อย่างไรก็ตาม มรดกเชิงวัฒนธรรม หรือ 5F ประเทศไทยไม่ได้มีแค่ข้าวเหนียวมะม่วงเพียงอย่างเดียว แต่มีทั้ง Food Film Fashion Fighting และ Festival” นายกฯ กล่าว

นายกฯ ชี้แจงเรื่องการแลกเปลี่ยนอาวุธยุทโธปกรณ์กับญี่ปุ่นว่า “ไม่ได้ไปรบกับใคร ไม่ได้หมายความว่าจะนำอาวุธไปรบกับใคร แต่หมายถึงการร่วมมือกันเรื่องเทคโนโลยีระหว่างกัน ไม่ได้ยืมอาวุธเพื่อไปรบกับใคร ประเทศไทยเองไม่มีอะไรให้ยืมด้วย เข้าใจนะ ไปตีความกันเลอะเทอะไม่ได้”