#เลือกตั้งผู้ว่ากทม65 : ทะลุล้านเสียงแล้ว “ชัชชาติ” หลังนับไปกว่า 73%

คะแนนทะลุล้านแล้ว! “ชัชชาติ” ทะยานต่อเนื่อง ประกาศขออาสาเป็นผู้นำแห่งความหวัง “วิโรจน์-สุชัชวีร์-สกลธี” ต่อสายร่วมยินดี “เพื่อไทย” แถลงขอบคุณทุกเสียง “พลังประชารัฐ” รับอย่างเซ็งๆ ศึกนี้ผิดหวังมาก

 

วันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. อย่างไม่เป็นทางการ นับแล้ว 73.82 % เมื่อเวลา 21.10 น. ผลปรากฎว่า

อันดับ 1 เบอร์ 8 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมัครในนามอิสระ 1,000,387 คะแนน

อันดับ 2 เบอร์ 4 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ 185,143 คะแนน

อันดับ 3 เบอร์ 1 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล 184,073 คะแนน

อันดับ 4 เบอร์ 3 นายสกลธี ภัททิยกุล สมัครในนามอิสระ 169,524 คะแนน

อันดับ 5 เบอร์ 6 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สมัครในนามกลุ่มรักษ์กรุงเทพ 156,396 คะแนน

ทั้งนี้ในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา หลังทราบผลไม่เป็นทางการที่ทิ้งห่างแบบหลายช่วง ชัชชาติ ได้ปรากฎตัวพบกับผู้สนับสนุนที่สเตเดียม วัน ปทุมวัน โดยกล่าวว่า มีผู้สมัครหลายคนได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดี ซึ่งตนก็ตอบไปว่า หากมีโอกาสก็จะนำสิ่งดี ๆ ของนโยบายผู้สมัครมาปรับใช้ และจะทำงานร่วมกับส.ก.ทุกฝ่าย เพื่อประโยชน์ของพี่น้องกรุงเทพมหานคร เพราะถือเป็นมิติที่ดี สุดท้าย เราต้องก้าวข้ามความแตกแยก เป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเราจะทำให้กรุงเทพเดินหน้าขึ้นไปได้

เป็นทางการ อย่างไรก็ดีวันนี้ เป็นวันที่มีความหมายส่วนตัวกับตนมาก เพราะเมื่อ 8 ปีก่อน เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร ตนถูกคลุมหัว มัดมือ ตอนนี้แหละ นาทีนี้เลย เพิ่งถูกนำตัวไป ตอนกลับ ก็ถูกคลุมหัวกลับ หลังจาก 7 วันผ่านไป เลยไม่รู้ว่าถูกพาไปไหน แต่ตนก็ไม่ได้รู้สึกเกลียด ให้อภัยกับสิ่งทีเกิดขึ้น

“นั่นคือความทรงจำเตือนใจเราว่า เมื่อไหร่ที่ประชาชนทะเลาะ เกลียด กลัวซึ่งกันและกัน สุดท้ายจะมีกลุ่มคนที่ได้ผลประโยชน์”

คนเรานั้นเห็นต่างกันได้ ขออย่าสร้างความเกลียดชังซึ่งกันและกัน นี่คือบทเรียนสำคัญ ถ้าเกิดมีโอกาสได้เป็นผู้ว่าฯ ตนพร้อมเป็นผู้ว่าของทุกคน ไม่ว่าใครจะเลือกหรือไม่เลือก ก็ต้องรับใช้ทุกคนเหมือนกัน ตอนลงพื้นที่ มีคนว่าประจำ ผู้ว่าฯนั้น จะมาพบแค่ช่วงก่อนเลือกตั้ง บอกว่าถ้าเป็นผู้ว่าฯ ก็จะไม่เจอตัว แต่ตนเป็นผู้ว่าฯติดดิน จะสัญจรไปทุกเขต ทุกอาทิตย์

ตนจะเริ่มต้นปลูกต้นไม้ก่อน จากนั้นก็จะไปลงพื้นที่เขต ลงชุมชน สัมผัสกับประชาชน ได้เจอกับผู้ว่าฯ ตัวจริง ได้คุยกัน และก็มีช่องทางอื่นในการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ เจอตนได้ ตอนนี้ตนต้องถอดแว่นเหมือนตอนเป็นรมว.คมนาคม ที่มองโครงการใหญ่ การเป็นผู้ว่าฯ ต้องใส่แว่นหลายสี ดูหลายเรื่อง ถ้าใส่แว่นวิศวกรอย่างเดียว จะเป็นผู้ว่าที่ดีไม่ได้ เราต้องมีแว่นหลากสี เพื่อเข้าใจและแก้ปัญหาในกรุงเทพ

ข้าราชการกรุงเทพ มีคนดี ๆ เยอะ ต่อไปต้องห้ามซื้อขายตำแหน่ง และต้องมีสิ่งที่ชัดเจนว่า เราต้องการอะไรจากเขา อยากให้ใครทำอะไร เราต้องทำเป็นตัวอย่าง อยากให้ข้าราชการดูแลประชาชน เราก็ต้องลงไปดูแลประชาชน ไม่ใช่สั่งอย่างเดียว แต่ตัวเองไม่เคยทำเลย เราต้องเลือกคนเก่ง ไม่สำคัญว่าคนของใคร ดูผลงาน ประเมินเขา

“ข้าราชการที่ดีไม่ต้องกลัว ข้าราชการที่ไม่ดี เตรียมตัวไว้ได้”

อนาคต เรามาเดินร่วมกัน อย่าทะเลาะกัน เมื่อผ่านการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยไปแล้ว เราได้เดินผ่านจุดนั้นไปแล้ว ก็ต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน กรุงเทพเป็นมหานครที่เต็มไปด้วยความหวัง ความสวยงาม มีคุณค่ามากมาย ที่ผ่านมามีเหตุการณ์หลายเรื่อง ทำให้ไม่ได้รับการเจียรไนอย่างเต็มที่

ขอย้ำว่า คนเรานั้นคิดไม่เหมือนกัน ก็ต้องตัดสินชั่งใจในการเลือก อย่างน้อยกรุงเทพนั้น ตนอาสามาประสานงานกับทุกคน เราสามารถขัดแย้งกันได้ แต่อย่าไปโกรธเกลียดอะไร เดินไปด้วยกัน ตอนนี้สิ่งที่เปลี่ยนในการเมืองระดับประเทศ ที่เปลี่ยนไปเลยอย่างแรก คือป้ายหาเสียง มันจะเปลี่ยนการเมืองไปตลอด ใครทำป้ายใหญ่จะเกะกะ มันสะท้อนให้เห็นว่า เรื่องเล็ก ๆ ก็สามารถเปลี่ยนการเมืองไปได้ อนาคตอาจมีการเมืองที่ไม่มีพรรคการเมือง มีแต่คนมารวมกันก็ได้ ต่อไปก็อาจมีอะไรแปลกใหม่ได้

“ประเทศไทยต้องการความเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างต้องเดินต่อไป มีวิธีคิดที่ต่างไป พัฒนาแนวร่วม พรรคการเมืองใหญ่อาจไม่ได้ประโยชน์อีกแล้ว คนจำนวนมากเลือกเรา ก็แสดงว่าไว้ใจเรา ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน”

ทั้งนี้ไม่มีใครเปลี่ยนความคิดคนอื่นได้ การเปลี่ยนความคิดคนนั้น ต้องเริ่มมาจากตัวเราเอง อย่าไปเสียเวลากับคนที่ไม่เปลี่ยนความคิด อย่าไปเสียเวลาทะเลาะกับเขา เพราะหากเราต้องการให้เขาคิดเหมือนเรา ถ้าเขาไม่เปลี่ยน ก็ไปหาคนอื่น คนเรามีความแตกต่าง ทุกอย่างให้ประชาชนตัดสินใจ

“ตนขออาสามาเป็นผู้นำแห่งความหวัง เดินร่วมกันไป คุยกันด้วยเหตุผล ทำกรุงเทพให้เป็นนครที่คนอยู่อย่างมีความสุข ให้ทุกคนเดินไปพร้อม ๆ กัน วันนี้ก็ตื้นตันใจ เป็นเหมือนคำสั่งที่ประชาชนมอบหมายให้ตนเป็นตัวแทน”

ขอขอบคุณผู้สมัครทั้ง 31 คน ที่ร่วมเดินทางกันมาเกือบ 2 เดือน เป็นการแข่งขันที่ยุติธรรม ตนได้สิ่งดี ๆ หลายอย่าง เช่น เรื่องรัฐสวัสดิการเพิ่มเติม หรือการทำโครงการ เรื่องการหารายได้ของกทม. นโยบายของผู้สมัครทุกคนที่มีข้อดี ก็ต้องน้อมรับ เอานโยบายทุกท่านมาทำงานร่วมกัน เช่นเดียวกับส.ก.ทุกท่านที่เดินไปด้วยกัน กรุงเทพบอบช้ำมาเยอะ เช่นเดียวกับประเทศไทย สุดท้ายเชื่อว่าเมืองไทยมีพลัง

ตอนนี้รอทางกกต.ประกาศอย่างเป็นทางการ ขอขอบคุณเพื่อนชัชชาติและทีมงานทุกคน เช่นเดียวกับอาสาสมัครทุกคน วันนี้เชื่อว่า เราทำการเมือง และมีพลังได้ มีน้อง ๆ หลายร้อยคน ร่วมเดินกันมาถึงขนาดนี้ คนรุ่นใหม่ ทำให้เมืองเดินไปได้ เราเอาคนรุ่นนี้มาสร้างสรรค์และเดินไปร่วมกัน

2 ปีที่ผ่านมา ตนเน้นย้ำกับทางทีมงานว่า ต้องสนุก ปล่อยของกันเต็มที่ มันคือพลังที่จะเปลี่ยนกรุงเทพได้ ที่ผ่านมาเราทำได้ เราจะสร้างสิ่งดี ๆ ให้กรุงเทพอีกมากมายมหาศาล ทุกคนทำได้ มาร่วมทำให้กรุงเทพเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ขอบคุณทุกคน น้อง ๆ ที่ลงพื้นที่ก็มีอิสระ ทำนอกกรอบ เราไม่ได้มีรูปแบบของพรรคการเมืองที่กำหนดกรอบของเราอยู่

สิ่งแรกที่จะบอกคนที่เลือกและไม่เลือกคือ ขอคนกรุงเทพไปอ่านทำความเข้าใจนโยบายตนทั้งหมด นั่นคือสิ่งที่คนต้องการ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็มาถาม มาคุยกันกับตนได้ ตนและทีมงานได้มาทำนโยบายที่ให้ไว้ประชาชน ใครไม่เห็นด้วยก็จะได้มาคุยกัน แต่ขอไปศึกษามาก่อน จะได้คุยกันเข้าใจ ตนมั่นใจ ถึงเสนอตัวมาทำงาน เราทำงานบริหาร เพื่อฟังประชาชน มันมีระบบบริหาร ถ้าไม่ฟังประชาชนเลย ก็จะอยู่ลำบาก

ทั้งนี้ขอดูพรุ่งนี้ว่าจะได้กี่คะแนนอย่างเป็นทางการกี่เสียง ตนเชื่อว่าตัวเองได้คะแนนเสียงมากกว่านายกรัฐมนตรีอีก ตนไม่ได้ท้าทาย ไม่ได้ชวนทะเลาะ แต่เมื่อประชาชนเลือกมา ทุกอย่างก็มีเหตุผลระเบียบขั้นตอน จึงเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ตอนนี้คะแนนยังไม่เป็นทางการ พูดไปก็ผิดกฎหมาย

“ตอนนี้ไม่ถือเป็นชัยชนะ แต่เป็นคำสั่งของประชาชน ที่ต้องปฏิบัติตาม”

ตนได้คุยกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่า ฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกลและนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ เรานำนโยบายมาใช้ ก็ต้องฟังคุยกับส.ก. ทำงานร่วมกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน ถ้าเริ่มด้วยคุยกัน ก็ไม่ได้กังวลอะไรเลย ทำงานได้ทุกพรรค แม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยด้วย

ขอบคุณพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองที่ดูแลกรุงเทพมากว่า 5 ปี อะไรที่ดีเกิดขึ้น ก็จะนำเป็นบทเรียนไปขยายได้ เอาไปขยายทำคลองหลายจุด มีจุดดีที่ดีจริง และเราจะมีคณะทำงานเพื่อร่วมกันทำงานกับปริมณฑล เพื่อช่วยกันทำงานร่วมกันเพื่อดูแลประชาชน เราต้องมีมาตรการที่จูงใจประชาชนให้ย้ายมากรุงเทพ เพื่อประเมินงบประมาณในการใช้พัฒนาเมืองให้ถูกต้อง

“การดูแลเส้นเลือดฝอย นั่นเพื่อลดการเหลื่อมล้ำ ให้ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะโอกาสการศึกษา ให้คนรุ่นลูกดีกว่าคนรุ่นพ่อแม่ได้”

‘พลังประชารัฐ’ ทำผลงานน่าผิดหวัง

ด้านที่พรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายอภิชัย เตชะอุบล ผู้อำนวยการศูนย์การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร​ (ส.ก.)​ พรรคพลังประชารัฐ เดินทางเข้ามาติดตามผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการเมื่อช่วงเย็น โดยแจ้งว่าจะลงมาแถลงข่าวในเวลา 19.30 น.​ขณะที่บรรยากาศที่พรรคค่อนข้างเงียบเหงา​ ไม่มีแกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเดินทางเข้ามาร่วมลุ้นผลแต่อย่างใด

จากนั้นเวลา 20.10 น. นายอภิชัย พร้อมนายธวัชชัย ปิยนนทยา โฆษกศูนย์ฯ แถลงหลังทราบผลเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ส.ก. อย่างไม่เป็นทางการ โดยนายอภิชัยกล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ส่วนผลของ ส.ก.ที่ออกมาขณะนี้นับคะแนนนับไปครึ่งหนึ่งฉะนั้นผลเป็นทางการยังไม่ทราบดีเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ขอบคุณชาว กทม. ทุกคะแนนเสียงที่ให้ ซึ่งเราน้อมรับและจะนำไปแก้ไขต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลที่ออกมาถือว่าผิดคาดหรือไม่ นายอภิชัยกล่าวว่า ในส่วนของ ส.ก.ก็ยอมรับว่ามีความผิดหวังมาก แต่น้อมรับสิ่งที่ประชาชนให้กับเรา และจะรับไปแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม จากผลที่ออกมามองอีกมุมก็ถือว่าพอใจในระดับหนึ่ง เพราะพรรคส่ง ส.ก.ครั้งแรก และไม่ได้มีผู้ว่าฯกทม.ช่วยเลย จึงถือว่ายืนด้วยตัวเองขาที่แข็งแกร่งพอสมควรในการเมืองระดับชาติและท้องถิ่น

เมื่อถามว่า ได้มีการวิเคราะห์เหตุผลว่าคะแนนที่น้อยมาจากการเมืองใหญ่มีส่วนหรือไม่ นายอภิชัยกล่าวยอมรับว่า ก็มีส่วน เราก็ยอมรับและรับไปแก้ไข ซึ่งเชื่อว่ายังพอมีเวลาแก้ไขปรับปรุงในสนามการเลือกตั้งใหญ่ ช่วง 7-8 เดือนที่จะนำมาปรับปรุง ดังนั้นมองอีกมุมเป็นเรื่องดีที่เราจะแก้ไขได้ทัน ขณะเดียวกันยอมรับว่าสถานการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจแบบนี้ที่ดูไม่ดีทำให้คนเปลี่ยนใจได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงผลการเลือกตั้งที่ออกมา ทั้งนี้ หลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังจากนี้จะมีการเรียกผู้สมัคร ส.ก.ทั้งหมดมาขอบคุณและให้กำลังใจ เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานและปรับปรุงแก้ไขต่อไป นอกจากนี้ ก็จะเตรียมเลือดใหม่พลังประชารัฐ ดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาเสริมอีกด้วย

‘ก้าวไกล’ ยัน ส.ก.พร้อมร่วมงานกับผู้ว่าฯ 

ส่วนที่ทำการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) อาคารอนาคตใหม่ สถานที่สังเกตการณ์การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) โดยบรรยากาศช่วงเวลา 14.00 น. แกนนำพรรค ก.ก. และคณะก้าวหน้า อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรค ก.ก. น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เป็นต้น ร่วมกันสังเกตการณ์และรับทราบรายงานข้อมูลที่ส่งมาจากอาสามัครที่ไปเฝ้าหน่วยเลือกตั้งเพื่อจับตาการลงคะแนน และการนับคะแนนของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยว่าเป็นไปตามกระบวนการ และโปร่งใสหรือไม่

ต่อมาเวลา 18.20 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) พรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์หลังปิดหีบเลือกตั้งซึ่งคะแนนมาเป็นอันดับ 2 รองจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 8 สังกัดอิสระ ว่า ไม่เกี่ยวว่าจะได้คะแนนอันดับที่เท่าไร เพราะความจริงคือการขอบคุณประชาชนที่มอบทุกแต้ม ทุกคะแนน และกำลังใจให้เรา ทั้งนี้ ต้องรอให้นับคะแนนทั้งหมดก่อนจึงจะประเมินได้ว่าจะเป็นอย่างไร ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินเพราะการนับคะแนนคืบหน้าไปน้อย แต่ยืนยันว่าตนและผู้สมัคร ส.ก.พรรค ก.ก. ได้วางยุทธศาสตร์เอาไว้ ว่าจะทำอย่างครบถ้วน ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ต้องน้อมรับและเคารพผลการเลือกตั้งของประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่คะแนนรวมเบื้องต้นของชัชชาติ และนายวิโรจน์เกินกว่า 60 % และมากกว่าผู้สมัครที่สนับสนุนฝ่ายรัฐบาล จะส่งผลต่อภาพการเมืองใหญ่มากเพียงไร นายวิโรจน์กล่าวว่า สะท้อนว่าคน กทม.สิ้นหวังกับรัฐบาลแล้ว และยืนยันได้แล้วว่าการโหวตเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ได้เกิดผลจริง เพราะประชาชนยังอยากเลือกในสิ่งที่ตรงกับความต้องการของตัวเอง ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์แล้ว เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.ได้ประเมินคะแนนของนายวิโรจน์ไว้เท่าไหร่ นายวิโรจน์กล่าวว่า เรารอนับคะแนนจริงดีกว่า เพราะที่ผ่านมาแต่ละคนประเมินแล้ว คะแนนไม่เท่ากัน

เมื่อถามว่าคาดว่าจะได้ ส.ก.ทั้งหมดกี่เขต นายวิโรจน์กล่าวว่า เราไม่ได้ประเมินว่าจะได้กี่คน เพราะการประเมินนั้นยากมาก การทำโพลรายเขตมีความจำกัดด้านความแม่นยำ แต่เราจะเน้นย้ำให้ผู้สมัคร ส.ก.ทำตามแผนและพบปะประชาชนเพื่อนำเสนอนโยบาย ซึ่งสามารถทำตามแผนได้ ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ต้องมาลุ้นกัน

เมื่อถามว่า ส.ก.ของพรรค ก.ก. พร้อมทำงานกับผู้ว่าฯกทม.ที่ชนะการเลือกตั้งหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า เรายึดหลักว่า ส.ก.พรรค ก.ก. พร้อมทำงานให้กับประชาชนทุกคน หากผู้ว่าฯกทม.คนใดพร้อมทำงานให้กับประชาชน เราก็พร้อมทำงานกับผู้ว่าฯกทม.คนนั้นเหมือนกัน ทั้งเรื่องการจัดงบประมาณ การทบทวนแก้ไขข้อบัญญัติที่เป็นอุปสรรคในการให้บริการประชาชน ถ้ามีจุดยืนตรงกัน ต้องการสร้างความเป็นธรรม และสร้างเมืองให้คนเท่ากัน เราทำงานร่วมกันกับใครก็ได้

เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงผู้ที่ลงคะแนนให้นายวิโรจน์หรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนขอบคุณประชาชนที่มอบทุกคะแนนที่มอบให้และขอบคุณผู้ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทุกเสียงสะท้อนมาที่ตนและพรรค เราได้น้อมรับไว้หมดแล้ว และจะปรับปรุงตัวให้การทำงานเพื่อประชาชนดีขึ้น

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้จะส่งผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนคิดว่าคนต่างจังหวัดก็ต้องการเมืองที่คนเท่ากัน ดังนั้น การแก้ไขปัญหาในการจัดงบประมาณและการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อสร้างความเท่าเทียมกันให้กับคนในประเทศนี้ และได้รับการใส่ใจเหมือนกัน และดีเสมอกันก็เป็นธงใหญ่ของพรรค ก.ก. ที่จะปักธงอนาคตต่อไป

“ดร.เอ้” ยกหูยินดี “ชัชชาติ” ฝากสานนโยบาย ยันไม่ถอดใจการเมือง

เมื่อเวลา 20.05 น. ที่อาคาร ESV TOWER พหลโยธิน 9 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า เมื่อสักครู่ตนได้โทรศัพท์แสดงความยินดีกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. ซึ่งก็ได้คุยกัน โดยตนบอกว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือสามารถบอกได้ เพราะเราเป็นพี่น้องกัน

นายสุชัชวีร์กล่าวต่อว่า ถึงวันนี้ชัดเจนแล้วว่าประชาชนเลือกแล้ว ซึ่งตนก็ต้องกราบขอบคุณจริงๆ เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่ตนออกมาเวทีการเมือง ภูมิใจ และขอบคุณทุกคะแนนที่มอบให้ตนเยอะจริงๆ ทุกคะแนนมีค่า และจะเป็นพลังให้ตนทำงานต่อไป ถ้าถามว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร ตนก็อยากจะไปส่งลูกที่โรงเรียน และไปกอดพ่อกับแม่ ส่วนอนาคตทางการเมืองนั้น ตนยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะตัดสินใจอย่างไร และยืนยันยังไม่ถอดใจเส้นทางการเมือง

เมื่อถามว่า มีนโยบายอะไรที่อยากฝากผู้วาฯกทม.คนใหม่ทำ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ฝากเรื่องการทำแก้มลิงเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ และไวไฟฟรี ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯเปลี่ยนไปจริงๆ และที่สำคัญผู้ว่าฯจะต้องมีวิธีคิดแบบใหม่ ไม่เช่นนั้นกรุงเทพฯจะจมน้ำท่วมซ้ำซาก

ถามต่อว่า รู้สึกอย่างไรที่ได้คะแนนเป็นที่ 2 บ้างที่ 3 บ้าง นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ยังต้องลุ้นต่อเพราะยังต้องนับคะแนนอีกเยอะ และรอลุ้น ส.ก.ของพรรคด้วย อยากให้ ส.ก.ได้เยอะๆ และอยากแสดงความยินดีกับ ส.ก.ที่ได้รับเลือกตั้ง

อัศวิน ยอมรับคำตัดสินจาก ปชช.

ขณะที่ เมื่อเวลา 19.30 น. ที่อาคารรักษ์กรุงเทพ ภายหลังจากปิดหีบการเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นำโด่งที่คะแนนเกิน 50% ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง มาเป็นอันดับที่ 5

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 6 แถลงยอมรับผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ว่าเห็นผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ เชื่อว่านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 8 ชนะ 100% ทั้งนี้ ขอบคุณทุกกำลังใจ จะได้มากได้น้อยไม่เป็นปัญหา ก็ถือว่าประชาชนให้ความไว้วางใจ ส่วนนโยบายต่างๆ ก็ฝากนายชัชชาติ สิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและยังค้างอยู่ก็ฝากไว้ต่อยอดด้วย

“เรียนสื่อมวลชนที่รักทุกคน ผมอัศวิน ขวัญเมือง พร้อมด้วยทีมอดีตรองผู้ว่าฯกทม. เพิ่งจะเข้ามาดูทีวีอยู่ตอนช่วง 17.30 น. สิ่งที่เห็นอยู่นับไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้วไม่มีปัญหา เราก็ยังตามเขาอยู่เยอะ ซึ่งอาจจะสู้ไม่ได้แล้ว สู้ท่าน ดร.ชัชชาติไม่ได้แล้ว แต่ผมก็อยากจะบอกพี่น้องสื่อมวลชนไปถึงประชาชนว่า ในสิ่งที่ประชาชนตัดสินใจเลือก เราก็ให้เกียรติพี่น้องประชาชน ซึ่งคิดว่าเขาคงจะเลือกคนที่ถูกใจ คนที่เข้าใจเขา ผมเชื่อนะ เชื่อว่า ดร.ชัชชาติคงชนะ 100% ถ้าดูจากทีวีนะ

“ผมก็ฝากสื่อไปถึงประชาชนว่าขอบคุณทุกคะแนน ทุกกำลังใจ จะได้มากได้น้อยไม่ใช่ปัญหา ก็ถือว่าพี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจเราเป็นบางส่วนแล้ว ส่วนนโยบายต่างๆ ก็ฝาก ดร.ชัชชาติไว้เลยว่าสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก็ฝากไว้ด้วย ช่วยต่อยอดในสิ่งที่เราค้างเอาไว้ ขอให้ประชาชนไว้ใจ ดร.ชัชชาติ ผมฝากนิดเดียว ฝากให้ ดร.ชัชชาติ ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯเท่านั้นพอ ขอบคุณครับ” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว

 

‘เพื่อไทย’ ขอบคุณคนกรุง เลือกฝ่าย ปชต.ถล่มทลาย

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 19.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผอ.การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมและหัวหน้าครอบครัว พท. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค พท. ร่วมแถลงข่าวถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และสมาชิกสภากรุงเทพฯอย่างไม่เป็นทางการ

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ในนามพรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาว กทม.ที่ท่านได้ผู้ว่าฯกทม.จากการใช้อำนาจอธิปไตยเลือกผู้ว่าฯกทม.ที่ท่านรัก และยินดีกับพี่น้อง กทม.ที่เลือก ส.ก.ส่วนใหญ่เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย และต้องขอบคุณทุกคะแนนที่มอบความไว้วางใจให้กับ ส.ก.ของพรรค พท. เราได้รับความไว้วางใจมาเป็นอันดับ 1 แม้บางเขตเราไม่ได้รับเลือก แต่เราก็พร้อมที่จะทำงานให้ท่าน

“ขอขอบคุณที่ท่านเลือกอย่างมียุทธศาสตร์ ทั้งผู้ว่าฯกทม.และ ส.ก.เพื่อพาประเทศออกจากวิกฤตให้ได้ ในนามพรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ นายชัชชาติถือเป็นความภาคภูมิใจของฝ่ายประชาธิปไตย และเป็นความภาคภูมิใจของพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

“เราพร้อมที่จะสนับสนุนท่านผู้ว่าฯ หากท่านต้องการแรงสนับสนุนจากพวกเรา ท่านเป็นว่าที่ผู้ว่าฯกทม.แข็งแกร่งที่สุด ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยก็แข็งแกร่งที่สุด แม้วันนี้เมื่อ 8 ปีที่แล้วเราทุกข์ระทมจากการโดนแย่งอำนาจอธิปไตย แต่วันนี้เรามีความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ อย่างไรก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นวันนี้ทำให้เราพบกับสิ่งที่เกินคาด ผลการเลือกตั้งวันนี้ทำให้เกิดมาดามนครบาลคนใหม่ขึ้นแล้วที่นี่” นพ.ชลน่านกล่าว

ด้านนางพวงเพ็ชรกล่าวว่า ในนาม ผอ.เลือกตั้ง ส.ก. ต้องขอบคุณทีมงานและผู้สนับสนุนทำให้พรรค พท.มีวันนี้ วันที่ประชาชนให้ความไว้วางใจเลือกพรรคฝั่งประชาธิปไตย เห็นได้จากคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ทั้งนี้ ทราบว่าคนกรุงเทพฯอึดอัดจากความเป็นอยู่ จึงได้มอบความไว้วางใจให้พรรค พท.มาทำนโยบายที่จะทำเพื่อคนกรุงเทพฯ และไม่ว่าใครที่สอบได้หรือไม่ได้ ก็จะขอตั้งมั่นทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าจะผลักดันนโยบายสู่สภา กทม.ให้ทำได้และทำได้จริง

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องขอบคุณที่พี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเราไม่ได้เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.มานานกว่า 9 ปี และ ส.ก.มานานถึง 13 ปี วันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยที่เกิดขึ้น และยินดีที่เราจะได้ผู้ว่าฯกทม.​และ ส.ก.ที่มาจากการเลือกตั้ง หลังจากนี้นโยบายที่พรรค พท.นำเสนอไป ส.ก.ของพรรคจะผลักดันให้นโยบายเกิดขึ้น เพราะผู้สมัครของเราทุกเขตทำงานหนัก ไม่ใช่เฉพาะแค่ช่วงเลือกตั้ง แต่ทำงานหนักกว่า 2 ปี พวกเขาได้ยินเสียงความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน ซึ่งทนไม่ไหวที่ต้องอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องแบบไม่มีที่สิ้นสุด

“แม้ขณะนี้ผลคะแนนยังไม่เป็นทางการ แต่เราก็ได้ ส.ก.เยอะ เราจะทำตามที่รับปากไว้เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนกรุงเทพฯ ทีมงานพรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วให้กรุงเทพฯน่าอยู่ และชีวิตคนกรุงเทพฯดีขึ้น” น.ส.แพทองธารกล่าว

เมื่อถามว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นใบเบิกทางให้ น.ส.แพทองธารในการเลือกตั้งระดับชาติหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ตนได้คุยกับหัวหน้าพรรคเรื่องเกี่ยวกับนโยบายว่าเราจะสื่อสารกับพี่น้องประชาชนอย่างไร เราต้องการผลักดันนโยบายที่เราสื่อสารกับพี่น้องประชาชนให้เกิดขึ้นจริง และเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราเน้นความเป็นไปได้ แล้ววันข้างหน้าให้พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสิน ชนะแล้ว พท.ทำเต็มที่ทุกช็อตที่จะเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วเสียงอยู่ที่พี่น้องประชาชนว่าจะเลือกและไว้ใจใคร ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะทำให้ดีที่สุดทุกรอบ