‘ภราดร’ ชี้ไทยได้บทเรียน รัฐประหารไม่ใช่ทางออก ลั่นสังคมต้องไม่นิ่งเฉยเหมือนเมื่อก่อน

‘ภราดร’ ชี้ไทยได้บทเรียน รัฐประหารไม่ใช่ทางออก ผิดกฎหมาย ลั่นสังคมต้องไม่นิ่งเฉยเหมือนเมื่อก่อน ถ้าเกิดปัญหาต้องใช้การเมืองแก้

 

วันที่ 22 พ.ค. 2565 นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการครบรอบ 8 ปีรัฐประหาร ว่า ตนมองว่าเป็นบทเรียนให้สังคมไทยคิดคำนึงได้ ว่าการแก้ปัญหาทางการเมืองโดยการรัฐประหารไม่ใช่คำตอบ แม้อาจจะแก้ไขปัญหาได้ แต่ก็แค่ชั่วคราวเฉพาะหน้า หลังจากความสงบแบบชั่วคราวที่เกิดขึ้นโดยการรัฐประหาร เราจะเห็นว่าได้เกิดปัญหามากมายขึ้นในสังคม

นายภราดร กล่าวต่อว่า การทำรัฐประหารมีข้ออ้างที่ว่าการเมืองขัดแย้ง สุดท้ายการเมืองก็ไม่ได้รับการแก้ไขเหมือนที่นำมาเป็นเหตุผลของการทำรัฐประหาร ซึ่งตนเชื่อว่าตอนนี้สังคมได้เรียนรู้มากขึ้นพอสมควร และหวังว่าสังคมจะเรียนรู้มากขึ้นจากการเกิดรัฐประหารล่าสุด ว่าผลของการรัฐประหารทำให้บ้านเมืองบอบซ้ำ และถอยหลังไปหลาย 10 ปีอย่างไรบ้าง

เมื่อถามว่า มองว่าอนาคตจะมีการเกิดรัฐประหารอีกหรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า หลังจากการรัฐประหารในปี 2534 เราคิดว่าเป็นรัฐประหารครั้งสุดท้าย และยิ่งเห็นรัฐธรรมนูญที่เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 2540 ออกมาแล้ว ฝ่ายประชาธิปไตยก็ไม่มีใครคิดว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และมีการรัฐประหารขึ้นมาอีกในปี 2549 และ 2557 ซึ่งมีข้ออ้างให้คนที่อยากทำรัฐประหารได้ใช้เป็นข้ออ้าง ดังนั้น ตนมองว่าทุกส่วนต้องช่วยกันลดเงื่อนไขที่จะนำพาไปสู่ข้ออ้าง ที่ฝ่ายรัฐประหารเขาจะสามารถนำมาใช้ได้

“ที่สำคัญผมมองว่า การยอมรับจากสังคมต้องไม่นิ่งเฉยเหมือนเมื่อก่อน ที่เมื่อเกิดรัฐประหารต่างคนก็ต่างยอม ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งจริงๆ แล้วผิดกฎหมายและไม่ถูกต้องตามหลักสากล ผมมองว่าสังคมต้องแสดงออกให้ชัดเจน ว่าปัญหาทางการเมืองต้องใช้การเมืองแก้ไข และการรัฐประหารไม่ใช่ทางออก” นายภราดร กล่าว

เมื่อถามถึง การเตรียมความพร้อมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 นายภราดร กล่าวว่า จะมีการพูดคุยกันในพรรควันอังคารที่ 24 พ.ค.นี้ ว่าจะเอาประเด็นอะไรเป็นหลักหรือไม่