ชัชชาติ โต้ข้อกล่าวหา แจงปมเซ็นอนุมัติสายการบิน Low Cost-แก้แบบสถานีกลางบางซื่อ

ชัชชาติ โต้ข้อกล่าวหา แจงปมเซ็นอนุมัติสายการบิน Low Cost-แก้แบบ สถานีกลางบางซื่อ

 

วันที่ 19 พฤษภาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” แจงกรณีการถูกพาดพิงทั้งเรื่องการเซ็นอนุมัติ ในอนุญาตสายการบินต้นทุนต่ำ 40 รายใน 1 ปี หรือเรื่องการปรับแผนแบบสถานีกลางบางซื่อ ดังนี้

แจงปม ปีเดียวเซ็นอนุมัติ ใบอนุญาตโลว์คอส 40 ราย

นายชัชชาติกล่าวว่า การอนุญาตสายการบินมี 2 ใบ คือ ในอนุญาตเชิงพาณิชย์ หรือ AOL และใบอนุญาตเชิงความปลอดภัยหรือ AOC ใบอนุญาตแรก รัฐมนตรีต้องเป็นคนอนุมัติ เกี่ยวกับคุณสมบัติเชิงพาณิชย์ ว่ามีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ มีเครื่องบินกี่ลำ มีข้อกำหนดชัดเจน กรรมการชุดนี้จะดูตามประกาศว่าครบถ้วนไหม หากครบ ก็ส่งไปให้รัฐมนตรีอนุมัติ หากไม่มีอะไรที่เป็นข้อสงสัยก็ต้องอนุมัติ เพราะเป็นเงื่อนไขตามประกาศ และช่วงนั้นโลว์คอสต์ แอคทีฟมาก ปี 51-62 มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 280% แต่ 41 ใบ นั้น ไม่ใช่แค่โลว์คอสต์ทั้งหมด ยังมีเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงไฟล์ตระหว่างเมือง เช่าเหมาลำ และการอนุญาตต่ออายุของเก่า เมื่อได้รับอนุญาต ก็ต้องไปขอในอนุญาตความปลอดภัยของกรม ก็ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรีแล้ว เป็นเรื่องที่กรมต้องไปขอต่อ

“40 ใบนี้ ได้สอบถามกับอธิบดี พบว่ามีการออกใบความปลอดภัย 10 กว่าใบเท่านั้น หากไม่อนุมัติให้ก็จะเกิดคำถาม ว่าต้องการไปเรียกอะไรเขาหรือเปล่า เพราะเขาทำตามข้อกำหนดแล้ว เรามีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ได้ดูว่าใครขอ แต่ดูระเบียบ และมีการปรับระเบียบให้เข้มข้นขึ้น ในมิติหนึ่งเป็นการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ แต่ความปลอดภัยก็ต้องเข้มข้น”

แจงปม แก้เปลี่ยนแบบ สถานีกลางบางซื่อ

นายชัชชาติกล่าวว่า เรื่องนี้หากไม่แก้โดนด่าแน่นอน สถานีกลางบางซื่อนั้นคือหัวใจของการคมนาคมทางรถไฟ จะมีสายเหนือ สายใต้ มาขึ้นที่นี่หมด โครงการนี้อนุมัติตั้งแต่สมัยท่านสุรยุทธ์ การออกแบบมันออกแบบเฉพาะรถไฟทางไกล แต่รถไฟชานเมือง จะใช้ระบบราง 1 เมตรเหมือนกัน แต่ไม่ได้ออกแบบสำเร็จรถไฟความเร็วสูงไว้

รถไฟชานเมือง กับรถไฟทางไกล เขาออกแบบให้แชร์แฟลตกัน ปกติต้องวิ่งคนละ 2 ระบบ 4 ทาง แต่จากบางซื่อไปดอนเมือง เขาออกแบบให้ เป็น 3 ทางต้องแชร์กัน ก็เกิดอันตราย เพราะสีแดงนั้นวิ่งเร็ว นี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะทำให้เกิดคอขวด จึงเปลี่ยนเป็น 4 ทาง ขณะเดียวกันไม่ได้ออกแบบเผื่อรถไฟความเร็วสูงไว้ ก.พ.ปี 55 ก็ให้ การรถไฟไปทบทวนแบบใหม่ ให้รองรับอนาคต และรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งตอนนั้นมีโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงด้วย พอ ก.พ.ก็สั่งไป ดำเนินการ พอยุบสภา ธ.ค.56 ก็หยุดปฏิบัติการ พอรัฐประหาร เขาก็ยังดำเนินการต่อ เมื่อถึง รัฐบาล นายกฯประยุทธ์ ปี 57 ปลายปี ท่านไปเซ็นสัญญารถไฟฟ้าความเร็วสูงกับจีน ก็มาอนุมัติการปรับแบบในปี 58

“จริงๆ แล้ว เป็นแนวคิดที่เราเริ่มที่จะปรับแบบในอนาคต เพราะเราสร้างแล้วเราปรับไม่ได้ ชั้น 3 ที่เป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูง กับแอร์พอร์ตลิงก์ เพราะว่ามันกำลังมา หากไม่เตรียมเผื่อไว้ไม่ได้ และก็ไม่ได้อนุมัติโดยรัฐบาลเราด้วย สิ่งสำคัญคือ ท่านอาคม เห็นโครงการนี้ตั้งแต่แรก ตั้งแต่ท่านอยู่สภาพัฒน์ เห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลง”

ปัดเอื้อประโยชน์สนามบิน ดิวตี้ฟรี

นายชัชชาติกล่าวว่า เรื่องนี้ผ่านมา 18 ปีแล้ว เห็นข่าวก็ต้องไปค้น ตอนนั้นกลับมาจากต่างประเทศ มาเป็นอาจารย์ ก็มีสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญา ก็ไปเป็นวิศวกรในโครงการ ช่วยดูที่เกี่ยวกับวิศวกรโยธา ส่วนการประเมินมูลค่า เราไม่มีความรู้ตรงนี้ ก็จะมีกลุ่มช่วยดู พอเกิดปฏิวัติและมีการสอบสวนอย่างหนัก แต่ช่วงนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรา ไม่ได้เรียกเราไปสอบ เพราะเราไม่ได้เกี่ยว เราไม่ได้เกี่ยวกับส่วนประเมินมูลค่าอะไร เข้าใจว่าปี 2554 ยุติเรื่องไป ป.ป.ช.ไม่ชี้มูล

เมื่อถามว่าผู้กล่าวอ้าง มีเอกสาร หลักฐาน ว่านายชัชชาติมีส่วนร่วมในการให้ความเห็นนั้น นายชัชชาติกล่าวว่า หากเกี่ยวข้อง ป.ป.ช.คงไม่ปล่อยไว้ ไม่เห็นรายละเอียดจริงๆ

แจงค่าเสียหายสนามบินต้องประเมินเป็นปี

สำหรับข้อสงสัยที่ว่า ม็อบพันธมิตร ได้ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ 10 วัน แต่นายชัชชาติเซ็นเยียวยา 365 วัน นั้น นายชัชชาติกล่าวว่า น่าจะอนุมัติปี 2552 ในสุวรรณภูมิมีกิจการหลายอย่าง มี คาร์โก้ ครัวการบิน ก็มีกรรมการตามมาตรา 22 ดูแล พอมีม็อบการเมือง การท่าฯ ก็ออกกรรมการช่วยเหลือ แต่ต้องเข้า ครม.ก่อน ถึงจะช่วยเหลือได้ ผมได้เป็นที่ปรึกษา แต่ก็วิเคราะห์ให้ว่าความเสียหายเป็นอย่างไร แต่โครงการนี้ คิดเป็นมูลค่าขั้นต่ำต่อปี ก็ต้องคิดว่าทั้งปีเสียหายเท่าไหร่ ต้องคำนวณไปต่อปี เพราะไม่รู้ว่านักท่องเที่ยวจะหายไปอย่างไร ก็มีกรรมการดู ก่อนเข้ากระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี ปี 2552 ไม่ได้รอมาถึงผม ไม่เช่นนั้น ผู้ประกอบการคงตายแล้ว

“อันนี้ผมไม่ใช่ ครม. ผมเป็นที่ปรึกษา เท่าที่ดู ครม.รับในหลักการ และให้การท่าฯไปประเมินให้จ่ายตามเสียหายจริง ทุกคนเห็นข้อมูล แสดงว่าไม่ได้ปิดบัง”

นายชัชชาติยังทิ้งท้ายว่าเมื่อถูกถามว่า ช่วงก่อนเลือกตั้งนี้จะโดนกรณีต่างๆ อีกมากว่าตอนนี้ ก็โดนมาตลอด ก็ยืนยันว่าเราอิสระ เดินมา 2 ปีครึ่ง เดินคนเดียว และอิสระจริงๆ มั่นใจมาถูกทาง มีความสุข