‘วิโรจน์- ช่อ’ ดาวกระจายพบชาวฝั่งธนฯ ขอโอกาสเปลี่ยนกรุงเทพฯ สร้างเมืองคนเท่ากัน

สองอดีตโฆษกฝีปากกล้า ‘อนาคตใหม่-ก้าวไกล’ ช่อ พรรณิการ์ และ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ดาวกระจายพบปะพี่น้องประชาชนฝั่งธนบุรี เชื่อ 12 นโยบาย เปลี่ยนเกมกรุงเทพ สร้างเมืองที่คนเท่ากันได้จริง

 

วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อำนาจ ปานเผือก ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เบอร์ 6 เขตบางเเค พรรคก้าวไกล ร่วมกันเดินตลาดหมู่บ้านเพชรเกษม 2 ฝั่งใต้ เขตบางเเค และชุมชนเคหะธนบุรี 1 ส่วน 5 เขตบางขุนเทียน จากนั้นจึงไปเจอกับ วิเชียร กันทาทรัพย์ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เบอร์ 1 เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล และ ถวิล ไพรสณฑ์ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อประชาสัมพันธ์ว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565 และรับฟังปัญหาจากประชาชนฝั่งกรุงธนบุรี
.
วิโรจน์ กล่าวว่า เขตบางแคและเขตบางขุนเทียน เป็นถือยุทธศาสตร์สำคัญของฝั่งธนบุรี ตลอดการเดินในพื้นที่ประชาชนตอบรับดีเกินคาด ต้องขอบคุณและต้องบอกว่าเป็นเพราะประชาชนเข้าใจนโยบายที่เราสื่อสาร จึงเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้างของกรุงเทพมหานครมากขึ้น ตอนนี้ถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายเหลือเพียงไม่อีกกี่วัน ยังคงเชื่อมั่นในวิธีการสื่อสารเชิงนโยบาย เพราะเชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนใจประชาชาชนได้ และเราขอโอกาสสร้างเมืองของคนที่เท่ากัน

“นี่เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญในรอบ 9 ปี ของการเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเเละสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หลายคนไม่เข้าใจว่า เหตุใดผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับ ส.ก.ต้องทำงานร่วมกัน เพราะโดยหลัก ผู้ว่าต้องนำนโยบายเสนอเข้าสู่สภากรุงเทพมหานคร เพื่อขอจัดสรรงบประมาณ ซึ่งการทำงานร่วมกันจะยิ่งทำให้การบริหารราชกรุงเทพมหานครมีประสิทธิภาพ สามารถบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานครได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งเราให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจรัฐ กระจายงบประมาณให้กับชุมชน นโยบายที่เราคิดมา เราทำได้และประชาชนจับต้องได้จริง”
.
วิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า นโยบายเรามี 12 ข้อ เเต่หนึ่งในนโยบายสำคัญ คือการกระจายงบประมาณจากงบกลางซึ่งเป็นอำนาจของผู้ว่า 4,000 ล้านบาท กระจายให้ 2,000 ชุมชน ในลักษณะการบริหารงบประมาณร่วมกับสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เชื่อว่า ข้อดีที่เกิดขึ้นไม่ใช่เเค่การกระจายเงินไปที่ประชาชนเท่านั้น เเต่มันคือการกระจายอำนาจไปที่ประชาชนด้วย ทุกคนจะรู้สึกเป็นเจ้าของเมืองร่วมกันมากขึ้น เมื่อทำแบบนี้ไป 4 ปี ในวาระที่เราเป็นผู้ว่า หลังจากนั้นมั่นใจว่าจะไม่มีผู้ว่าคนใดที่จะกล้าแตะงบประมาณส่วนนี้ที่ก้าวไกลกระจายอำนาจให้ประชาชนไปแล้ว

วิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ประชาชนมั่นใจใน วิโรจน์เเละทีมงาน ส.ก.ของพรรคก้าวไกลมากขึ้น ด้วยนโยบายที่ชัดเจนเห็นภาพเป็นรูปธรรม และการประกาศพร้อมชนทุกปัญหาของกรุงเทพมหานคร เราขอเชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เเละสมาชิกสภากรุงเทพมหานครในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เลือกผู้ว่ากาเบอร์ 1 พร้อม เลือก ส.ก.ของพรรคก้าวไกล เพื่อเข้าไปบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับกรุงเทพมหานคร
.
“สำหรับวันนี้ มาฟังปัญหาของคนบางขุนเทียน ว่าต้องการงบประมาณในการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำหนุนสูง ที่ผ่านมามีการของบประมาณส่วนนี้ไป 4,000 ล้านบาท ถูกตัดเหลือเพียง 600 ล้านบาท ยังไม่นับรวมงบฝาท่อที่ตัดออกไปด้วย นอกจากนี้ ยังไม่เหลืองบสำหรับลอกท่อเเละคูคลองให้ประชาชน นี่คือการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เห็นหัวประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมคนกรุงเทพ แต่กลับเอาไปจัดสรรให้งบอุโมงค์ยักษ์ไม่เคยขาด ทั้งที่ท่อและคลองต่างๆในกรุงเทพ รวมถึงระบบสูบน้ำต่างๆยังจำเป็นต้องมีในการบำรุงรักษาเเละปรับปรุงเพื่อรองรับเวลาเกิดวิกฤติน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร แต่ที่ผ่านมางบก้อนนี้ถูกตัดออกไปเกือบหมด”
.
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ช่อ พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารคณะก้าวหน้าในปัจจุบัน ได้มาร่วมเดินขอคะแนนร่วมกับผู้สมัคร ส.ก.เขตบางขุนเทียน รวมถึงช่วยประชาสัมพันธ์ให้ไปเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้ พร้อมกันนั้นยังขอโอกาสให้เลือก วิโรจน์ เป็นผู้ว่า พร้อมกับ ส.ก.ก้าวไกล เพื่อไปเปลี่ยนเกม เปลี่ยนกติกาที่ไม่เป็นธรรม สร้างเมืองที่คนเท่ากันที่เป็นไปได้จริง