‘ศิธา’ ร่วมเวที “ผู้ว่าHardTalk” ชูเครดิตปชช. ขอโอกาสคนกรุงแก้น้ำท่วม

ศิธา ทิวารี ชู!เครดิตประชาชน กู้ได้ดอกไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน กทม.แค่ตัวกลางดันนโยบายได้แบบไม่เปลืองบฯ ผิดหวัง! ฝนตกไม่นานน้ำก็ท่วมกรุง แนะลดน้ำคลองไว้รองน้ำฝนด่วน! ขอโอกาศคนเมืองหลวง แก้น้ำท่วม

 

น.ต. ศิธา ทิวารี สมัครผู้ว่าฯ.กทม.พรรคไทยสร้างไทย เบอร์ 11 ร่วมรายการ ผู้ว่าHardTalk ถามเจาะผู้ว่าฯ กทม.65 วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา

น.ต.ศิธา กล่าวถึงกรณีฝนตกไม่นานแต่น้ำท่วมในกรุงเทพฯเมื่อคืนวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาหลายจุดว่า เป็นเรื่องการบริหารจัดการที่ไม่ได้ลดระดับน้ำในคลองไว้รอรับน้ำฝน เมื่อฝนตกและน้ำล้นถนนเพียงนิดเดียวจึงล้นคลอง และท่วมในหลายจุด จึงต้องไปแก้ที่ระบบซึ่งที่ กทม.วางไว้แล้วใช้งบฯกว่าแสนล้านบาท ที่เชื่อว่าเพียงพอระบายน้ำปริมาณมาก รับมือฝนตกหนักได้ แต่มีประสิทธิภาพเพียง 60 % เพราะบริหารจัดการไม่ดี ซึ่งตนมีนโยบายในเรื่องนี้อยู่แล้ว ย้ำว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯได้เพิ่มขึ้นเป็น 90% ได้ในทันทีโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มแต่อย่างใด โดยพื้นฐานต้องระบายน้ำออกจากคลองก่อนที่ฝนจะตกลงมา

ถาม : จะใช้เวลาเท่าไหร่ แก้ปัญหาพื้นผิวการจราจร ถ.อังรีดูนัง

น.ต.ศิธา กล่าวว่า ใช้มาตรการทางกฎหมายได้เลย ตาม พ.ร.บ.บริหารราชการกรุงเทพฯ ที่กำหนดอำนาจหน้าที่หลายอย่าง โดยข้อที่ 22 คือ ต้องรักษาความปลอดภัยพื้นที่สาธารณะ จึงบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่กับผู้รับเหมาอย่างจริงจัง ให้เหมือนกับที่ผู้มีอำนาจใช้กฎหมายชุมนุมหรือ พ.ร.บ.ความสะอาด เล่นงานคนรุ่นใหม่ที่แสดงออกทางการเมือง ดั้งนั้น สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายกับผู้รับเหมา หน่วยงานต้นสังกัดได้ทันที ไม่ต้องใช้เวลามาก ยืนยันว่า การปิดท่อหรือติดตั้งสถานที่ต่างๆต้องได้มาตรฐาน ซึ่งมีสัญญาจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดอยู่แล้วว่าในการก่อสร้างหรือซ่อมถนน ต้องไม่ทำให้พื้นผิวการจราจรเสี่ยงต่อการสัญจร

ถาม : ปัญหาใหม่ๆที่เจอในกรุงเทพฯและผู้ว่าฯคนใหม่ต้องแก้ไข

น.ต.ศิธา กล่าวว่า ปัญหาต่างๆตั้งแต่ 20 ปีที่แล้วของกรุงเทพฯยังไม่เคยได้รับการแก้ไขดูได้จากป้ายหาเสียงของผู้สมัครผู้ว่าแต่ละคนล้วนเป็นปัญหาเดิมๆ สถานีเรื่องใหม่ตามสถานการณ์อย่างฝุ่น PM 2.5 สำหรับตนเห็นอีก 3 ปัญหาใหม่ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งที่ผู้ว่ากทมคนใหม่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญอย่างจริงจัง คือ ความยากจนของคนกรุงเทพฯ 2)ความปลอดภัยในการเดินทางและการดำเนินใช้ชีวิต 3) ผู้มีอัตลักษณ์แตกต่างทาง lgbt และผู้พิการ ที่ยังเข้าไม่ถึงสิทธิ์หลายด้านทัดเทียมกับคนทั่วไปหรือผู้ที่มีเพศสภาพชายกับหญิง

” เราเห็นสกายวอล์ครู้สึกว่าดีได้เดินร่มดี แต่คนพิการเขามองแล้วในหัวใจย่ำแย่มาก เพราะขึ้นไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ และเมื่อไปดูสิทธิ LGBTq เสียเหมือนคนทั่วไป แต่สิทธิไม่ได้อย่างผู้ชายกับผู้หญิง รับราชการก็ได้สิทธิ์ในของสามีภรรยา แต่ LGBT เขาไม่ได้รับ…เขาดูแลคนที่เขารักไม่ได้เพียงแค่ว่าคนที่เขารักไม่ใช่คนต่างเพศเท่านั้นเอง ”

ถาม : นโยบายที่แตกต่างจากผู้สมัครรายอื่น?

น.ต.ศิธา กล่าวว่า การให้คนยากจนเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ เพราะการเข้าไม่ถึงแหล่งทุน ต้องไปกู้นอกระบบสร้างปัญหาทางสังคมต่อเนื่องและเป็นการเบียดบังรายได้คนยากจน ดังนั้น กทม.ต้องตัวกลางและช่วยบริหารจัดการเรื่องการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ 1/ต่อเดือน กทม.ไปจัดกระบวนการเหมือนกองทุนหมู่บ้าน กองทุนชุมชน ยืนยันว่าชุมชนจะรู้ว่าเครดิตของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร ซึ่งตนและพรรคไทยสร้างไทย มีนโยบายและจะผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดขึ้น

“คนในชุมชน ถ้าตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับผิดชอบกองทุน จะรู้เลยว่าบ้านไหนเล่นการพนัน บ้านไหนกินเหล้าเมายา เขาจะไม่ปล่อยกู้ แต่ถ้าบ้านไหนทำมาหากิน แต่ต้องไปกู้เงินนอกระบบร้อยละ 20 ให้มาคู่ที่ตรงนี้ เริ่มต้นวงเงินไม่เกิน 5,000 บาทถึง50,000 บาท ถ้าเกินกว่านั้นมีเครดิตแล้ว สามารถไปกู้ที่อื่นได้ ยืนยันว่า เป็นนโยบายที่ไม่เหมือนใคร และไม่ได้ใช้ภาษี ไม่ได้ใช้งบฯ กทม.เป็นเพียงตัวกลางเท่านั้น ”

ถาม : ครึ่งปีหลังการเลือกตั้อง (ไตรมาสแรกของปี66) คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นและจะเตรียมรับมือสถานการณ์ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในฐานะผู้ว่ากทม.ฯ อย่างไร ?

น.ต.ศิธา กล่าวว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดได้ว่าการเมืองในอนาคตจะเป็นอย่างไร
จากผลคะแนนที่จะแบ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตย กับฝ่ายลุงๆ หรือผู้มีอำนาจรัฐในปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลถึงการเมืองระดับชาติในอนาคตหากฝ่ายประชาธิปไตยชนะแล้วปล่อยให้เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย ก็จะไม่เกิดปัญหาอย่างที่กังวล แต่หากใช้อำนาจและกลโกงอย่างกรณีบัตรเขย่ง และใช้ 250 ส.ว.ช่วยให้ครองอำนาจต่อไป เชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอม

“ถ้าเบอร์ 1 + เบอร์ 8 แล้วก็มีผม( เบอร์ 11 )ติดไปด้วยคะแนนรวมกันและมากกว่าอีกฝั่งเยอะๆ แล้วถ้าลุงยังคิดจะทำแบบเดิมๆ การเมืองจะแรงแน่นอน ”

” ถ้าเป็นประชาธิปไตยแล้วไม่ได้บริหารอย่างที่ลุงที่เก่งเป็นซุปเปอร์แมนทำได้ทุกอย่างคือเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเองเป็นหัวหน้า covid เอง ทำทุกอย่างเองแล้วมาบริหารแบบนี้ ผมเชื่อว่า คนไทยจะตายน้อยกว่านี้ครึ่งหนึ่ง “