ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า ร้องชาติตะวันตกส่งอาวุธช่วย แบบเดียวกับยูเครน

วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือเอ็นยูจีของพม่า ได้เรียกร้องให้นานาชาติช่วยเหลือสนับสนุนด้านอาวุธให้กับกองกำลังฝ่ายต่อต้านที่ต่อสู้กับกองทัพของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า โดยเรียกร้องการสนับสนุนแบบเดียวกับที่ชาวยูเครนได้รับในการใช้ต่อต้านการรุกรานกองทัพรัสเซีย

ยี มอน รัฐมนตรีกลาโหมรัฐบาลเอ็นยูจี กล่าวว่า ทั้งทหารอาสาชาวยูเครนและชาวพม่าผู้สนับสนุนประชาธิปไตยต่างต่อสู้เพื่ออิสรภาพและชีวิตของพวกเขา แต่การมีทหารที่ติดอาวุธอย่างดี มีความจำเป็นมากกว่า ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวระหว่างประเทศ

“จุดยืนของประชาคมระหว่างประเทศสำหรับพม่าคือการสนับสนุนทางศีลธรรมสำหรับเรา และเรารู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งนี้ แต่เราจะซาบซึ้งมากอีก หากเราได้รับการสนับสนุนทางกายภาพเช่นอาวุธและเงินทุน” ยี มอน กล่าวและว่า ด้วยการสนับสนุนนี้ เราจะสามารถยุติการปฏิวัติได้เร็วขึ้น และลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้น้อยลงได้

รัฐบาลเอ็นยูจี ซึ่งเป็นรัฐบาลของสมาชิกสภาจากการเลือกตั้งและไม่ยอมจำนนต่อการรัฐประหารและการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ได้ประกาศสงครามประชาชนทั่วประเทศเพื่อต่อต้านความพยายามในการรวบอำนาจของรัฐบาลเผด็จการทหาร ทำการสู้รบทางทหารด้วยกองทัพปกป้องประชาชนหรือพีดีเอฟ ซึ่งได้รับการฝึกฝนกับกลุ่มติดอาวุธรัฐชาติพันธุ์ที่ออกมาคัดค้านการยึดอำนาจของรัฐบาลทหาร

คำแถลงของยี มอน มีไม่นานหลังจากที่ ซิน หม่า อ่อง รัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลเอ็นยูจี ได้เดินทางเยือนสหรัฐฯเข้าร่วมหารือกับเวนดี้ เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯและไซฟุดดิน อับดุลลาห์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียระหว่างที่มีการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ

ทั้งนี้ ตลอดการสู้รบของกองทัพฝ่ายต่อต้านกับกองทัพรัฐบาลทหาร ตลอดปีมานี้ เรียกว่าเสียเปรียบในเชิงศักยภาพ แม้กองทัพประชาชนและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ติดอาวุธประเภทปืนกลเล็กและเครื่องยิงจรวด แต่ต้องสู้รบแบบจรยุทธ์ ตรงกันข้ามกองทัพพม่านั้น ได้รับการสนับสนุนทางอาวุธหนักโดยเฉพาะจากจีนและรัสเซีย ทั้งยานยนต์หุ้มเกราะและอากาศยานอย่างเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์จู่โจม