“ชนินทร์” ซัด “ประยุทธ์” ไร้ประสิทธิภาพ กลับลำแก้จนแบบไร้เป้าหมายตอนใกล้หมดวาระ ประเทศไร้อนาคต

“ชนินทร์” จวกประยุทธ์เทคนจน กลับลำการแก้จนแบบไร้เป้าหมาย ชี้ยิ่งอยู่คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนยิ่งจนลง ประเทศไร้อนาคต

 

วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งในระหว่างสรุปภาพรวมการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ว่าโครงการแก้ปัญหาความยากจนจะทยอยทำให้ประเทศดีขึ้น โดยเริ่มทำในปี 2565 ไม่ใช่ทุกคนจะหายจนหมดในปี 2565 ว่า นี่เป็นอีกครั้งที่พลเอกประยุทธ์และองคาพยพไม่มีความรู้ความสามารถในการคิดและลงมือแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างที่ได้เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 จากที่เคยตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนาให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง แก้ปัญหาปากท้อง สร้างรายได้ประชาชนให้เพียงพอต่อการดำเนินชีวิต จะต่อสู้กับปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำของรายได้และทรัพย์สิน

แต่ภาพของความจริงในปัจจุบันนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ชี้ว่าความเหลื่อมล้ำในการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศอยู่ในระดับสูงมาก คนที่จนที่สุดมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่ากลุ่มคนที่มีฐานะดีที่สุดเกือบ 16 เท่า อีกทั้ง 1 ใน 3 ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ ยังถูกถือครองโดยกลุ่มผู้มีรายได้สูงเพียง 10% ของประชากรทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่า ยิ่งพลเอกประยุทธ์บริหารประเทศ คนรวยยิ่งรวยขึ้น ในระหว่างที่คนจนนับวันมีแต่ยิ่งจนลง ประเทศไร้อนาคต

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ไม่เป็นผลดีกับประเทศไทยที่มีผู้นำชื่อพลเอกประยุทธ์ เพราะคำพูดและการกระทำไม่ต่างจากพรรคการเมืองที่เป็นนั่งร้านชูพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ไม่สามารถผลักดันนโยบายใดๆจากการหาเสียงเลือกตั้งได้เลย ตลอดเวลาที่พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศ มีแต่ใช้วาทกรรมที่ไม่เป็นความจริง เพียงเพื่อกลบเกลื่อนการไร้ความสามารถของตนเท่านั้น ส่วนการตั้งเป้าหมายจะทำให้คนจนหายไปหมดจากประเทศนั้น ในยุคพลเอกประยุทธ์เคยสัญญากับประชาชนมาแล้ว 2-3 ครั้ง

การที่ล่าสุดท่านออกมากลับลำบอกจะเริ่มทำในปีนี้ โดยไม่มีเป้าหมายความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม ทั้งที่กำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งอีกไม่นาน สะท้อนให้เห็นถึงความไม่มีประสิทธิภาพในการบริหาร และไม่มีความมั่นใจในความสามารถของตัวเองอย่างชัดเจน จึงไม่แน่ใจว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนยังจะให้ที่ยืนแก่พลเอกประยุทธ์อีกได้อย่างไร

“พรรคเพื่อไทยได้รับเสียงสะท้อนโอดครวญจากประชาชนคนรากหญ้ามาตลอด ว่าการทำมาหากินในยุคของพลเอกประยุทธ์ มีความลำบากมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ชาวบ้านรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งให้ขาดโอกาส ถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาค่าครองชีพสูงทุกรายการ หากเป็นพรรคเพื่อไทย เราจะไม่ปล่อยให้พี่น้องประชาชนถูกทิ้งไว้ข้างหลังแบบนี้ หัวใจของเราคือการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนในทุกกลุ่ม เพื่อสร้างการหมุนเวียนของเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้น สร้างผู้ประกอบการรายใหม่ๆทั่วแผ่นดิน และผลักดันธุรกิจไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก จนประชาชนอยู่ดีกินดีมีเงินใช้กันโดยทั่วไป” นายชนินทร์กล่าว