นายกฯ กลับถึงไทย ยันไปสหรัฐได้รับประโยชน์มากมาย ไม่มีปัญหาอย่างที่วิจารณ์กัน

นายกฯ กลับถึงไทยยันไปสหรัฐครั้งนี้ได้รับประโยชน์มากมาย ไม่ได้มีปัญหาอย่างที่วิจารณ์กัน เชิญ ‘ไบเดน’ เข้าร่วมประชุมเอเปกช่วงปลายปีที่ไทย

 

วันที่ 15 พ.ค.65 เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร (บน.6) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเดินทางกลับจากการร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ว่า ตนมีโอกาสพบกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ประธานสภาผู้แทนสหรัฐ รัฐมนตรีผู้แทนระดับสูงของหน่วยงานด้านเศรษฐกิจและด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพพูมิอากาศ และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของสหรัฐ ถือว่าเป็นการหารือครอบคลุมรอบด้าน

มีโอกาสพบปะชุมชนคนไทย ทักทายสอบถามสารทุกข์สุกดิบซึ่งกันและกัน ทุกคนมีความสุข ตนเล่าให้ฟังว่าประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปแล้วหลายอย่าง พัฒนาไปหลายอย่างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

“การประชุมกับสหรัฐเน้น 3 ประการคือส่งเสริมให้สหรัฐมีบทบาทสร้างสรรค์ในภูมิภาคโดยการทำงานร่วมกับอาเซียน เรียกง่ายๆ ว่า เป็นผู้เล่นที่สำคัญในอาเซียนในการ สร้างบรรยากาศความร่วมมือความไว้วางใจ เคารพ ซึ่งกันและกัน ขอบคุณที่มีโอกาสให้การดูแลเรื่องสุขภาพและสนับสนุนเราในเรื่องวัคซีน โควิด-19 และร่วมมือกันที่จะนำพาโลกเราไปสู่โลกยุคเน็กซ์นอร์มอลให้ได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

รวมทั้งความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนนโยบายเรื่องเกี่ยวกับสันติภาพในโลก ซึ่งบรรดาผู้นำของอาเซียนทุกคนได้แสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้น ในการหารือ ตนเสนอเรื่องการดูแลด้านมนุษยธรรมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสงครามที่เกิดขึ้น เรื่องความเสียหายเราจะช่วยกันดูแลได้อย่างไรต่อไป

นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องเศรษฐกิจ เน้นการฟื้นฟูระหว่างไทยสหรัฐอเมริกาให้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะไทยเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นแกนกลางของอาเซียนในการที่จะเป็นห่วงโซ่อุปทาน ที่สำคัญของสหรัฐ ยานยนต์ไฟฟ้าอุตสาหกรรมทางการแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ รอจิสติกอัจฉริยะ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หารือร่วมกันกับภาคธุรกิจสหรัฐในการที่จะเชิญมาลงทุนในประเทศไทยให้มากขึ้น และทราบว่าจะนำนักธุรกิจคณะใหญ่ที่สุด มายืนประเทศสมาชิกอาเซียนในปี 2566 โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดี

ในที่ประชุมใหญ่ตนเรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมมืออย่างจริงจังในการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนแปลงสภาพพูมิอากาศ เปลี่ยนผ่านไปสู่ พลังงานสะอาด และเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สนับสนุนพลังงานสีเขียว พัฒนาเศรษฐกิจกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

ได้ฝากไว้ว่าเราทุกคนในบทบาทประชาคมโลกทุกประเทศ เราต้องมองออกไปข้างหน้า และเรามีความท้าทายอีกมากที่จะเกิดขึ้นในอนาคตวิกฤตการณ์ที่สำคัญในวันนี้และวันหน้าคือเรื่องพลังงาน สินค้าขาดแคลน ความยากจนที่มีความแตกต่างกัน เราจำเป็นต้องช่วยกันเร่งแก้ไข ตามที่ตั้งหลักการไว้ คือ อยู่รอดปลอดภัย และพอเพียง นำไปสู่ความยั่งยืน เพื่อประชาชนคนไทย และโลกไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่จะผลักดันความร่วมมือ ให้เป็นรูปธรรมระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ โดยเฉพาะความมั่นคงด้านสาธารณสุข ด้านพลังงาน การรับมือกับสภาพพูมิอากาศ พัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล พัฒนาทุนมนุษย์ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูหลัง โควิด-19 อย่างยั่งยืน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและประเทศอื่นๆในภูมิภาค

และในฐานะที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกในปีนี้ตนเชิญชวนประธานาธิบดีสหรัฐ เข้าร่วมการประชุมในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นเวทีสำคัญที่ไทยจะผลักดันสร้างเสริมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในบริบทของโลก หลังโควิด-19 ที่เชื่อมโยงองค์รวมโดยใช้เศรษฐกิจบีซีจีเป็นแนวคิดพื้นฐาน โดยสรุปแล้วไปครั้งนี้ได้รับประโยชน์มากมาย ไม่ได้มีปัญหาอะไรอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กัน ไม่มี และอย่ากังวล

มอบหมาย ‘ดอน’ ไปทำภารกิจที่ซาอุฯ

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีนายยาเซอร์ บิน อุสมาน อัล-รูมัยยาน (Yasir bin Othman Al-Rumayyan) ประธานกรรมการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund: PIF) ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เข้าพบว่า ตนได้พบกับประธานกรรมการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ที่มาเยือนประเทศไทยเพื่อจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟหญิง ซึ่งจัด 5 ประเทศ 5 ครั้ง ไทยเป็นหนึ่งในนั้น ทั้งที่กำหนดท่านต้องเดินทางกลับก่อนแล้ว แต่เผอิญตนมาถึงท่านเลยรอพบตน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า โดยมีโอกาสพูดคุยในหลายเรื่องที่เราจะร่วมมือกันต่อไป และท่านได้ฝากมาถึงตนและรัฐบาลไทยว่ายินดีจะให้การสนับสนุนรัฐบาลไทยในสิ่งที่เราประสงค์ตรงกัน เป็นที่น่ายินดี หลายเรื่องที่เห็นตรงกัน และเช้าวันเดียวกันนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย เพราะตนได้มอบภารกิจให้เดินทางไปที่ซาอุดีอาระเบีย ไปเก็บรายละเอียดที่หารือกันเบื้องต้นหลายสัปดาห์ก่อน 7-8 เรื่อง และนำนักธุรกิจไทยไปด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะเห็นได้ว่ารัฐบาลไม่เคยหยุดนิ่ง สิ่งสำคัญคือเรื่องเศรษฐกิจ เราต้องมองไปข้างหน้า เราทำงานอย่างมีวิสัยทัศน์ว่าจะเดินหน้าประเทศไปทิศทางอย่างไร แล้วเราจะร่วมมือกับใคร เราพร้อมร่วมมือกับทุกประเทศ สิ่งสำคัญที่สุด ประเทศไทยจะต้องสงบเรียบร้อย ประเทศไทยจะเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัย มีความสงบสุข มีความเรียบร้อย เราเป็นแกนกลางของอาเซียน ตนอยากให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่ทุกคนอยากมาหาสู่ ใช้เป็นเวทีพูดคุยแก้ปัญหาต่างๆ ในประเด็นภูมิภาคหรือประเด็นอื่นๆ เราต้องรักษาสิ่งที่เรามีอยู่ในวันนี้ให้ได้ตลอดไป

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอบคุณสื่อทุกคนที่ตนไปสหรัฐ ก็ได้รับการติดตามตลอดเวลา มีข่าวออกทุกวัน ยืนยันทุกคนที่ไปทำงานเต็มที่ ไม่มีเวลาได้หยุดพักมาก เพราะการประชุมเดินต่อไปเรื่อยๆ มีวาระแทรกมากมาย ได้พบปะผู้นำอาเซียนทุกประเทศ มีการหารือระหว่างกันว่าจะดูแลและช่วยเหลือกันอย่างไร และจะนำพาประเทศพาวิกฤตในขณะนี้ไปได้อย่างไร ตนบอกที่ประชุมไว้ว่าวิกฤตทุกวิกฤตมีโอกาสอยู่เสมอ จะทำอย่างไรให้วิกฤตนั้นเกิดโอกาสในการทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เราอย่าทำวิกฤตให้เป็นวิกฤตมากไปกว่าเดิมเลย ตอนนี้ขอร้องพวกเรา เพราะสื่อมีบทบาทในการชี้นำทำความเข้าใจ ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ขอร้องว่าในช่วงนี้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองเราสงบสุข มีความรัก ความสามัคคี